HoonSmart.com>> “เอสโซ่” ไตรมาส 2/63 ขาดทุน 2,504 ล้านบาท ผลกระทบ COVID-19 ทุบรายได้วูบ 2.1 หมื่นล้านบาท ราคาขายผลิตภัณฑ์ ปริมาณการขายลด ฉุดงวดครึ่งปีขาดทุนหนัก 8,811 ล้านบาท
บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) หรือ ESSO เปิดผลผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2563 ขาดทุนสุทธิ 2,504.19 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.72 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 927.38 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.27 บาท
ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 8,811.05 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 2.55 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 99.76 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.03 บาท
บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาส 2/2563 จำนวน 24,423 ล้านบาท ลดลง 21,335 ล้านบาท จากงวดปีก่อนมีจำนวน 45,748 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนขายลดลงเหลือ 26,45,463 ล้านบาท จากงวดปีก่อนมีจำนวน 45.463 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงและปริมาณการขายลดลง เนื่องมาจาก COVID-19
ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 30.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 36.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบไตรมาส 2/2562 และลดลง 20.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบไตรมาส 1/2563 ราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 และลดลงรุนแรงหลังจากสงครามราคาช่วงต้นเดือนมี.ค.2563 การปิดพื้นที่ (lockdown) และ COVID-19 ส่งผลให้อุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวลดลงมากขึ้น เป็นผลให้โรงกลั่นน้ำมันหลายๆ แห่งต้องลดกำลังการผลิต กดดันราคาน้ำมันดิบลดลงจนถึงจุดต่ำสุเดือนเม.ย.2563 ราคาเฉลี่ย 20.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปลดลงรุนแรงในไตรมาส 2/2563 เมื่อเทียบงวดปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งต่ำสุดในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จากการปิดพื้นที่ในหลายประเทศ ส่วนพาราไซรีนราคาเฉลี่ย 495 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลง 412 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อเทียบงวดปีก่อนและลดลง 212 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อเทียบไตรมาส 1/2563 แนวโน้มราคาลดลงต่อเนื่องเป็นผลจากความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานในภูมิภาค
นอกจากนี้ค่าการกลั่นโดยรวมในไตรมาส 2/2563 -5.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักมาจากผลกระทบเชิงลบของสินค้าคงคลังค่าการกลั่นอุตสาหกรรมที่อ่อนตัวลงต่อเน่องเมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนลดลง 6.8 ดอลลาร์บาร์เรลจากผลกระทบเชิงลบของสินค้าคงคลังและค่าการกลั่นอุตสาหกรรมที่ลดลง
