HoonSmart.comm>>W เพิ่มทุนรอบนี้…ปลดล็อกเครื่องหมาย C ลุย “โดมิโน พิซซ่า” ขยายอาณาจักร International Food
ความพยายามของทีมบริหารชุดใหม่ของ บริษัท วาว แฟคเตอร์ จำกัด (W) ที่เข้ามาปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ มุ่งสู่อุตสาหกรรมอาหาร ภายใต้ธุรกิจ “ฟูดส์ โฮลดิ้งส์” ซึ่งประกอบด้วย 3 บริษัทย่อย Bake Cheese Tart (Thailand) จับกลุ่มสินค้าเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ BAKE CHEESE TART แบรนด์ CROQUANTCHOU ZAKUZAKU แบรนด์ RAPJ
บริษัท Eastern Cuisine (Thailand) จับกลุ่มอาหาร ประกอบด้วย ชาบู ภายใต้แบรนด์ KOGONOYA แบรนด์ชื่อดังของญี่ปุ่น, บริษัท Crepes and Co.Development ภายใต้แบรนด์ Crepes & Co. ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส และแบรนด์ Le Boeuf
สำหรับธุรกิจใหม่ “โดมิโน พิซซ่า” ภายใต้บริษัท Domino Asia Pacific ที่เข้าไปถือแฟรนไซส์ “โดมิโน พิซซ่า” ประเทศไทย ที่มีเครือข่าย 27 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 26 สาขา และในพัทยา 1 สาขา โดย W ซื้อแฟรนไชส์ต่อจากเจ้าของเดิม มูลค่าเงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 สิงหาคม 2563
ถือเป็นความพยายามพลิกโฉมธุรกิจครั้งสำคัญของ “W” จากธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ที่ “ตกกระแส” เห็นได้จากงบการเงินของ บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) ชื่อเดิม ก่อนเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท วาว แฟคเตอร์ (W)
ปี 2559 ขาดทุนสุทธิ 134.64 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทนสุทธิ 131.52 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 5.23 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 21.88 ล้านบาท มียอดขาดทุนสะสม 703.73 ล้านบาท
ที่ผ่านมา นักลงทุนยังติดตากับภาพของความเป็นหุ้น “ร้อน” ของ EIC แต่นับจากนี้ W จะเปลี่ยนไป
เพราะการเพิ่มทุนรอบใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จะช่วย บริษัท W ปลดล็อกเครื่องหมาย “C” โดยปริยาย จากส่วนทุนที่ติดลบ 14 ล้านบาท เล็กน้อยมาก เพิ่มทุนจบ งบไตรมาส 3 ออกกระบวนการปลดล็อก C ก็น่าจะเสร็จสิ้น มีเงินเข้ามาใช้สำหรับการเข้าซื้อแฟรนไซส์ “โดมิโน พิซซ่า” ในไทย และมีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายธุรกิจ ในอนาคต
คาดว่ากระบวนการรับโอนกิจการ “โดมิโน พิซซ่า” ในไทย จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/63 ทำให้ “W” ขยายอาณาจักร International Food ได้อย่างคล่องตัว
“ศิรัตน์ รัตนไพฑูรย์ “ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) W เล่าว่า สาเหตุที่ W พลิกโฉมเข้าสู่ธุรกิจอาหาร เพราะมองว่า อุตสาหกรรมอาหารเป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์ แม้จะมีโควิด แต่คนก็ยังต้องกิน เห็นได้ชัดจากยอดขายของกลุ่มสินค้าอาหารในกลุ่ม เติบโตมากกว่า 30% ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงยอดขายของ “โดมิโน พิซซ่า” ด้วย
ซีเอฟโอ บอกอีกว่า เกมส์ใหญ่ของ W คือ “ โดมิโนพิซซ่า” ซึ่งจะเป็น 1 ในหัวใจของ W เป็นสินค้า “เรือธง” ภายในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพราะ “โดมิโน พิซซ่า” เป็นเบอร์หนึ่ง Quick Service Restaurant หรือร้านอาหารบริการด่วนของโลก ที่ดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สั่งซื้อ “พิซซ่า” ปัจจุบันสาขาที่มีอยู่ 27 สาขา เป้าหมายปี 2564 จะเพิ่มเป็น 48 สาขา
“ผมมองว่า ตลาดพิซซ่าของเมืองไทย ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เราพร้อมที่จะเอาโนฮาวของโดมิโน พิซซ่า ที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ในการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค ในยุค New Normal ที่ทุกวันนี้ คนซื้อพิซซ่าส่วนใหญ่ เริ่มหันมาสั่งพิซซ่า มารับประทานที่บ้าน แทนที่จะไปนั่งห้างสรรพสินค้า รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน”
ข้อดีสำหรับการดำเนินธุรกิจในช่วงโควิด “W” สามารถลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานได้เป็นจำนวนมาก จากการปรับแผนย้ายสาขา ทำให้ต้นทุนสาขาลดลง หรือสามารถต่อรองกับเจ้าของพื้นที่ ในการลดค่าเช่า และที่ “โดมิโนพิซซ่า” มีจำนวนสาขาเพียง 27 แห่ง ยิ่งทำให้ต้นทุนถูก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีหลายร้อยสาขา กระจายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ทำให้มีต้นทุนค่าเช่าที่สูง และค่าใช้จ่ายพนักงาน
“โจทย์ของเราคือ ทำอย่างไรจะทำให้คนไทยที่มีเกือบ 70 ล้านคนทั่วประเทศ ได้เข้าถึงพิซซ่า ในราคาที่ไม่แพง พิซซ่าควรเป็นอาหารที่ใคร ๆ ก็กินได้ เพราะจริง ๆ แล้ว ต้นทุนไม่ได้แพงมาก หากเราดึงเอาเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อควบคุมต้นทุนสินค้า ควบคุมต้นทุนทางการตลาด ผมมองว่า ตลาดมีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะ และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยน เริ่มสั่งพิซซ่าไปกินที่บ้าน แทนที่จะมานั่งตามห้างสรรพสินค้า ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมีสาขาในห้างจำนวนมาก ๆ เหมือนในอดีต”
โดย W ประเมินว่าเงินลงทุน 400 ล้านบาท ที่ใช้สำหรับการซื้อแฟรนไซส์โดมิโน พิซซ่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10 ปี เท่านั้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน W กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากโครงสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทีมผู้บริหารชุดใหม่ของบริษัทฯ ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ตั้งใจเข้ามาบริหารธุรกิจ มาจากทั้งในส่วนของมือการเงิน ทีมการตลาดมืออาชีพ และ W มุ่งสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีธรรมาภิบาล หรือ CG ในระดับ 5 ดาว มุ่งสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน เป็น International Food ที่พร้อมบุกตลาดต่างประเทศ ในอนาคตอันใกล้นี้
และในปี 2564 ผลประกอบการจะเข้าสู่โหมด “เทิร์นอะราวด์” อย่างชัดเจน ภายใต้เรือธง “โดมินโน พิซซ่า” ใคร ๆ ก็กินได้