IRPC เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ ชูดอกเบี้ยจูงใจ เรทติ้ง A-(tha)

HoonSmart.com>>”ไออาร์พีซี” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้  7 – 9 ก.ย นี้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป  ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่าน 6 สถาบันการเงิน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A-(tha) จากฟิทช์ฯสะท้อนถึงความได้เปรียบในการแข่งขัน ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจผลิตปิโตรเคมีแบบครบวงจร

นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.00% ต่อปี และรุ่นอายุ 5 ปีที่ประมาณ 3.50% ต่อปี โดยสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท

สำหรับอัตราดอกเบี้ยรุ่นอายุ 2 ปี 10 ปี และ 15 ปี ซึ่งเสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ จะกำหนดเป็นที่แน่นอนอีกครั้งในช่วงปลายเดือนส.ค.นี้ พร้อมกับมูลค่าของการออกหุ้นกู้ โดยมีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้

หุ้นกู้ที่จะเสนอขายเป็นประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อในระหว่างวันที่ 7 – 9 ก.ย.2563 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทย และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร

วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้เดิมและใช้ในการประกอบธุรกิจทั่วไป และ/หรือการชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และ/หรือการขยายธุรกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการบริหารจัดการตามแผนกลยุทธ์ เร่งเพิ่มขีดสมรรถภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมทั้งรองรับโอกาสการลงทุนที่ตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal)

สำหรับหุ้นกู้ของ IRPC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงเช่นนี้ เนื่องจากสามารถให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A-(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2563 ซึ่งสะท้อนถึงความได้เปรียบในการแข่งขันในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจผลิตปิโตรเคมีแบบครบวงจร

บริษัทฯ มีโครงการสำคัญที่จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ได้แก่ โครงการ ABS Powder และ โครงการ Floating Solar (โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยนํ้า) นอกจากนี้ยังมีโครงการ UCF (Ultra Clean Fuel) ซึ่งเป็นโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ได้ตามมาตรฐานยูโร 5 (Euro V) ที่ตอบโจทย์ ECO Factory ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

IRPC ถือเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของธุรกิจปิโตรเคมี (Petrochemical Flagship) ของกลุ่มปตท. โดย ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 47.55% บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีครบวงจร ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ทุกรูปแบบ การแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภค ได้แก่ ท่าเรือ คลังน้ำมัน และโรงไฟฟ้า ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในประเทศ

ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ที่ได้รับผลกระทบจากขาดทุนสต๊อกอย่างรุนแรงในไตรมาส 1 โดยการประเมินราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ประมาณ 40 – 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และคาดว่าปริมาณความต้องการของตลาดจะปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล๊อกดาวน์ของหลายประเทศ ที่ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น นอกเหนือจาก ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกเกรดที่นำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติกทางการแพทย์และสาธารณสุข เช่น หน้ากากอนามัย และชุดพีพีอี (PPE) ที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา