HoonSmart.com>>หุ้นถุงมือยาง STGT ราคาวันแรกปิดเกือบนิวไฮ 60.50 บาท แจกกำไร 78 % จากราคาไอพีโอ ซื้อขายอันดับ 1 หรือ 20 % ของตลาด เตือนระมัดระวังการเก็งกำไร เหตุราคาแพง ทะลุเป้าหมายที่โบรกเกอร์ทุกค่ายให้ไว้ ด้าน ผู้บริหารถุงมือ ระบุยอดขายปีนี้โต 40 % อานิสงส์โควิด-19 ขณะที่ “เสี่ยยักษ์” อู้ฟู่เวลล์เพิ่มกว่าพันล้าน
ราคาหุ้นบริษัทศรีตรัง โกลฟส์ (STGT) ซื้อขายวันแรก 2 ก.ค.2563 ในตลาดหลักทรัพย์ ราคาปรับตัวแรง เปิดตลาด 55.25 บาท เพิ่มขึ้น 21.25 บาท หรือ 62.50 % จากราคาขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก ( IPO ) 34 บาท ขึ้นไปสูงสุด 60.75 บาท และปิดตลาด 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 26.50 บาท หรือ 77.94 % มูลค่าซื้อขายอันดับ 1 ของตลาด 17,255.28 ล้านบาท หรือ 20.42 % ของการซื้อขายทั้งตลาด
นักลงทุนสถาบันให้ความเห็นว่า ราคาหุ้น STGT วันแรก เกินราคาปัจจัยพื้นฐานที่โบรกเกอร์ให้ไว้ทุกค่าย แสดงว่าแพงแล้ว เป็นมันนี่เกมส์ของนักลงทุนรายใหญ่ การเก็งกำไรต้องใช้ความระมัดระวัง การขึ้นไปสูงกว่า 60 บาท มีความเสี่ยงที่รายใหญ่จะขายทำกำไรลงมา
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจถุงมือยางที่ต่างประเทศซื้อขายที่ P/E ระดับ 22-28 เท่า ซึ่งสำหรับ STGT ใช้ที่ 23 เท่า ราคาเหมาะสมที่ 56 บาท ปัจจุบันเกินราคาเหมาะสมแล้ว
“ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่คือ STA มีส่วนลดมากกว่า STGT ราคาเหมาะสมที่ 39.90 บาท มองว่าราคาหุ้นทั้ง 2 บริษัท ไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะเข้าสู่ภาวะการเก็งกำไรและตัดขาดทุน” นายกิจพณ กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้น STGT ประเมินจากราคาซื้อขายกลางปี 2564 ได้ราคาเหมาะสมที่ 43.40 บาท ส่วน STA ราคาเหมาะที่ 32.70 บาท แต่มองว่าท้ัง 2 บริษัทยังสามารถเติบโตได้ดีต่อเนื่อง เป็นบริษัทที่ผลงานโดดเด่น แนะนำ”ซื้อ”
ทั้งนี้ STGT กำไรสูงกว่าคาด จากเดิมประเมินไว้ว่าตัวเลขอ้างอิงราคาถุงมือต่อชิ้นจะเพิ่มขึ้น 3% ต่อเดือน แต่จากใน Pipeline คาดราคาปรับเพิ่มขึ้น 3-5% ต่อเดือน ส่งผลให้กำไรเติบโตทุกไตรมาส ส่งผลบวกต่อ STA ด้วย นอกจากนี้ธุรกิจกลางน้ำเริ่มดีขึ้น คู่แข่งในตลาดเริ่มลดลง
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า หุ้น STGT ประเมินราคาเหมาะสมที่ 45 บาท ปัจจุบันเกินราคาเหมาะสมแล้ว แต่อาจจะมีการปรับราคาใหม่ จากการประเมินยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยคู่แข่งที่มาเลเซียปรับยอดขายเพิ่มขึ้นเดือนละ 15% สำหรับ STGT ตอนที่ตั้งราคาเหมาะสม คิดจากการเติบโตของยอดขายที่ 5% ต่อเดือน
บล.กรุงศรีออกบทวิเคราะห์ กำหนดราคาเหมาะสม STGT ที่ 45.50 บาท อิง P/Eปี 63 ที่ 21 เท่า ใกล้เคียง P/E เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังของบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางในต่างประเทศ คาดว่าบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ประมาณ 3,100 ล้านบาท เติบโตถึง 409% จากปีที่ผ่านมา เพราะปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาในไตรมาส 1 อีก 4,841 ล้านชิ้นต่อปี หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 18% ราคาขายปรับขึ้นตามความต้องการใช้ในตลาดโลกจากสถานการณ์โควิด และต้นทุนน้ำยางข้นที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 37,200 ล้านชิ้นต่อปี ทำให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 70,048 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2571 เพิ่มขึ้นถึง 114% ในระยะ 8 ปีข้างหน้า
อ่านข่าว
“เสี่ยยักษ์” อู้ฟู่กว่า 1.3 พันลบ. ระดมซื้อ STGT ถือหุ้น 1.55%