หุ้นถุงมือยาง STGT สร้างความมั่งคั่งให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อขาย จากราคาหุ้น IPO 34 บาท แจกกำไรเกือบ 78 % ส่งผลให้ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งถือหุ้นกว่า 22 ล้านหุ้น หรือ 1.55 % อู้ฟู่ขึ้นกว่า 1,340 ล้านบาท เป็นที่ร่ำลือในตลาดหุ้น
จากรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ศรีตรัง โกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ปรากฏชื่อ นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ “เสี่ยยักษ์” นักลงทุนรายใหญ่ เข้าถือหุ้นจำนวน 22.20 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 1.55 % ของหุ้นชำระแล้วทั้งหมด 1,428.78 ล้านหุ้น
เมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นที่เสี่ยยักษ์ ถือ กับ ราคาปิด 60.50 บาท ส่งผลให้หุ้นที่เสี่ยยักษ์ ถือคิดเป็นมูลค่า 1,343 ล้านบาท สมมุติฐานว่า เสี่ยยักษ์ มีต้นทุน 34 บาท จะมีกำไรถึง 588 ล้านบาท ในช่วงเวลาสั้น ๆ
แหล่งข่าวใกล้ชิด เสี่ยยักษ์ เปิดเผย www.HoonSmart.com ถึงที่มาหุ้นจำนวนมากของ “ เสี่ยยักษ์” ว่า “เสี่ยยักษ์” ไปเก็บหุ้นนอกตลาด จากนักลงทุนที่ได้สิทธิ์จองซื้อหุ้นไอพีโอ โดยให้ส่วนต่างกับนักลงทุน รับซื้อตั้งแต่ราคา 42 – 46 บาท นักลงทุนที่ถือใบจอง กำไรทันที 10 บาท จึงขายใบจองออกมา นอกจากนี้ “เสี่ยยักษ์” ยังเข้าไปเก็บในกระดานเพิ่มตั้งแต่เปิดตลาด 55.25 บาท
แล้วมูลเหตุอะไรที่ “เสี่ยยักษ์” ซื้อหุ้น STGT จำนวนมากขนาดนี้ คนใกล้ชิด “เสี่ยยักษ์” บอกว่า “เสี่ยยักษ์” ได้ศึกษาธุรกิจถุงมือยางของมาเลเซีย ซึ่งเทรดที่พี/อี 50-60 เท่า ราคาหุ้นในมาเลย์ ปรับขึ้นจาก 3-4 ริงกิต มา 10 ริงกิต จากความต้องการถุงมือยาง ในภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลราคาถุงมือยาง ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เดือนละ 5 % มาตลอดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
” เสี่ยยักษ์ มีความเชื่อถึง 80 % ว่า ปีนี้ถุงมือยาง STGT น่าจะกำไรดี ต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่มีกำไร 421 ล้านบาท กำไรที่โตดี เป็นผลจากคำสั่งซื้อที่มีไปถึงกลางปี 2564 ” แหล่งข่าวกล่าว
อ่านข่าว
STGT แพง !!! เตือนเก็งกำไรระวัง ราคาวันแรกทะลุเป้าโบรกฯ ทุกค่าย
