HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 299 จุด ผ่อนคลายกฎ Volcker ขยายการลงทุนให้ธนาคาร ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกือบ 2%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 25มิถุนายน 2563 ที่ 25,745.60 จุด เพิ่มขึ้น 299.66 จุด หรือ 1.18% จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงท้ายตลาดหลังรัฐบาลประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดการลงทุนให้กับธนาคาร ขณะที่นักลงทุนรอผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธนาคารกลาง(เฟด) จะเผยแพร่หลังตลาดปิด
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,083.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.43 จุด, +1.10%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,017.00 จุด เพิ่มขึ้น 107.84 จุด, +1.09%
คณะกรรมการประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ได้ผ่อนคลายกฎ Volcker Rule โดยจะอนุญาตให้ธนาคารสามารถลงทุนได้มากขึ้น ในกองทุนร่วมลงทุน (venture capital) หรือกองทุนอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน รวมทั้งยกเว้นไม่ต้องสำรองเงินสดสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ระหว่างบริษัทในเครือ ส่งผลให้กลุ่มธนาคารมีเงินทุนเพิ่มขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 4.6% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 4.8% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 3.5% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 3.68% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 3.92%
ในช่วงแรกของการซื้อขายตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานเผยการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวน 1.48 ล้านราย สูงกว่า 1.35 ล้านราย ที่นักวิเคราะห์คาด
กระทรวงพาณิชย์เผยประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2563 ครั้งสุดท้ายว่า หดตัว 5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากประมาณการครั้งที่ 2 ขณะที่ประมาณการครั้งที่ 1 หดตัว 4.8% เพราะผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 15.8% จากที่ลดลง 18.1% เดือนเมษายน เป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
นักลทุนยังเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ ส่งผลให้รัฐเท็กซัสประกาศระงับแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์หลังคาดว่ามีประชาชนกว่า 20 ล้านคนอาจจะติดเชื้อ และแอปเปิลประกาศปิดสาขาเพิ่มในฮูสตันหลังจากปิดไปแล้ว 7 สาขา
ในการเสวนาผ่านระบบออนไลน์ นายโรเบิร์ต แคปลัน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือของประชาชนที่จะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อไวรัส
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนมากระทบตลาดหลังจากวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายที่จะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ทางการจีนและธุรกิจที่รุกรานความเป็นอิสระของฮ่องกง
หุ้นวอลท์ดิสนีย์ ลดลง 0.63% หลังประกาศเลื่อนการเปิดสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ 2 แห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย จากกำหนดเปิดในวันที่ 17 กรกฎาคม
หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นฮัลลิเบอร์ตันเพิ่มขึ้น 4.8%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 41.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อในกลุ่มรถยนต์ กลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 1.6%-2.4% จากการประกาศของธนาคารกลางสหภาพยุโรปว่าจะปล่อยกู้เงินยูโรแบบมีหลักประกันให้กับธนาคารกลางประเทศอื่นนอกยูโรโซน เพื่อหนุนภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 23.45 จุด, +0.38%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 359.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด, +0.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,918.58 จุด เพิ่มขึ้น 47.23 จุด,+0.97%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,177.87 จุด เพิ่มขึ้น 83.93 จุด, +0.69%
หุ้นลุฟท์ฮันซ่าเพิ่มขึ้น 7.1% หลังนักลงทุนยกเลิกการคัดค้านการรับเงินช่วยเหลือ 9 พันล้านยูโรจากรัฐบาล
อ่านข่าว