ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 400 จุด นักลงทุนวิตกเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 400 จุด วิตกเศรษฐกิจหด ราคาน้ำมันดิบดิ่งใกล้ต่ำสุดปี 2002 ด้านตลาดหุ้นยุโรปสวนทางปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 31มีนาคม 2563 ที่ 21,917.16 จุด ลดลง 410.32 จุด หรือ 1.84% นักลงทุนกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบลดลงไปใกล้ระดับต่ำสุดของปี 2002

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.59 จุด ลดลง 42.06 จุด, -1.60%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ ,700.10 จุด ลดลง 74.05 จุด, -0.95%

ในไตรมาสแรกดัชนี DJIA ลดลง 23.2% เป็นการลดลงรายไตรมาสที่มากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 1987 ส่วนดัชนี S&P500 ลดลง 20% และ ดัชนี Nasdq ลดลง 14.2% ลดลงมากสุดนับตั้งแต่ปี 2008

ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19ต่อเศรษฐกิจเริ่มชัดเจนมากขึ้น ว่าจะทำให้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยประธานธนาคารกลางสาขาคลีฟแลนด์ ลอเร็ตต้า เมสตอร์คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐจะย่ำแย่และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นไปที่ 10% จากมาตรการที่ควบคุมการระบาดของไวรัส

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นถึง 700 รายภายใน 24 ชั่วโมง ที่นิวยอร์กซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 16%ภายใน 6 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตรวมในสหรัฐฯมากกว่า 3,700 ราย ส่วนที่อิตาลีและสเปนกำลังพิจารณาที่จะเพิ่มระดับมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่สเปนมีผู้เสียชีวิต 849 รายในวันเดียว

นักลงทุนจับตาว่าสภาคองเกรสจะให้ความเห็นชอบกับมาตรการเยียวยาชุดที่ 4 หรือไม่ ขณะที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์เน้นไปที่โครงการพื้นฐาน อีกทั้งเกาะติดว่ามาตรการเยียวยาที่รัฐบาลและธนาคารกลางหลายประเทศนำมาใช้จะมีผลช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสหรือไม่

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงหลังจากผันผวนมากสุดในไตรมาส และลดลงมากสุดในประวัติศาสตร์ จากการระบาดของไวรัส และสงครามราคา ทำให้ความต้องการโลกหดตัวเนื่องจากมีการระงับการเดินทาง นักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการน้ำมันในเดือนเมษายนจะลดลง 20-30% และยังคงอ่อนตัวอีกหลายเดือน

Conference Board เผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมีนาคมอยู่ที่ระดับ 120.0 ลดลงจากระดับ 132.6 ในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่า 110.0 ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017

เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ เผยผลสำรวจ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 3.9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน

นักลงทุนจับตาตัวเลขการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานที่จะเผยแพร่วันที่ 2 เมษายนนี้รวมทั้งข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรวันที่ 3 เมษายน

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงมากสุด โดยลดลง 4% และ 3%ตามลำดับ

ในไตรมาสนี้หุ้นโบอิ้งลดลง 54% หุ้นเชฟรอนลดลง 39%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการปรับตัวขึ้น 4.9% นักลงทุนขานรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ( Purchasing Managers Index) เดือนมีนาคมของจีนที่เพิ่มมาที่ระดับ 52.02 จากที่ลดลงไปที่ระดับต่ำสุด 35.7 ในเดือนก่อน อย่างไรก็ตามไตรมาสแรกปีนี้ตลาดลดลงมากที่สุด 23.1% นับตั้งแต่ปี 2002 จากการระบาดของไวรัสและความวิตกภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้

ในสเปน จีดีพีไตรมาส 4 ปี 2019 เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ฝรั่งเศสเงินเฟ้อเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.7% แต่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,671.96 จุด เพิ่มขึ้น 108.22 จุด, +1.95%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 320.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.18 จุด,+1.65%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,396.12 จุด เพิ่มขึ้น 17.62 จุด, +0.40%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,935.84 จุด เพิ่มขึ้น 119.87 จุด, +1.22%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 39 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 20.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 22.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบผันผวน WTI ขยับบวกสวนเบรนท์ลด