ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 1,300 จุด วุฒิสภาผ่านมาตรการกระตุ้นศก. 2 ล้านล้านดอลล์

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 1,300 จุด วุฒิสภาผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านดอลล์ ดึงตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงเกือบ 8%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 26มีนาคม 2563 ที่ 22,552.17 จุด เพิ่มขึ้น 1,351.62 จุด หรือ 6.38% หลังจากวุฒิสภาลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 96 ต่อ 0 ให้ความเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดสองวงเงินราว 2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และนักลงทุนคาดหวังว่า สภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะมีการอภิปรายในวันนี้จะให้ความเห็นชอบมาตรการนี้เช่นกัน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,630.07 จุด เพิ่มขึ้น 154.51 จุด, +6.24%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,797.54 จุด เพิ่มขึ้น 413.24 จุด, +5.60

การผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยกลบปัจจัยลบ การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาสิ้นสุดวันที่ 21 มีนาคม ที่เพิ่มขึ้นเป็น 3.28 ล้านรายหลังจากที่หลายรัฐได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักและมีการปลดพนักงาน ตลาดมองว่า การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังต่ำกว่าตัวเลขสูงสุด 4 ล้านรายที่นักวิเคราะห์ได้คาดไว้

นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการออกมายืนยันผ่านรายการ Today ของสถานีโทรทัศน์ NBC ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน ธนาคารกลาง(เฟด) ว่า เฟดไม่มีวันหมดกระสุนที่จะปล่อยเงินกู้พยุงเศรษฐกิจ พร้อมกับกล่าวว่า เฟดจะยังคงดำเนินการนโยบายการเงินแบบเชิงรุกและเฉียบขาด เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

การปรับตัวขึ้นหุ้นโบอิ้ง หุ้นเชฟรอน และหุ้นวอลล์กรีนช่วยหนุนตลาด เพราะแต่ละตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% โดยหุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 13.75% หลังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จัดสรรเงิน 58 พันล้านดอลลาร์ให้กับธุรกิจสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 10.26% หุ้นวอลล์สกรีนเพิ่มขึ้น 10.21%

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยแต่ละกลุ่มเพิ่มขึ้นมากกว่า 7%

กระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 ปี 2562 ครั้งที่ 3 ว่าเพิ่มขึ้น 2.1% สอดคล้องกับประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 รวมทั้งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการกลับมาบวก 6% หลังจากธนาคารกลางของสหภาพยุโรปประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรไม่อั้น จากเดิมที่กำหนดวงเงินไว้ 750 พันล้านยูโร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อ

นอกจากนี้ผู้นำกลุ่มอียูจะประชุมทางไกลเพื่อหาแนวทางในการรับมือกับวิกฤติการระบาดของไวรัส เพราะอิตาลีและสเปนเป็นประเทศที่มีการระบาดรุนแรง มีผู้เสียชีวิต 7,000 รายและ 3,500 รายตามลำดับ

ธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้แต่ให้คำมั่นว่าจะซื้อสินทรัพย์เพิ่มเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,815.73 จุด เพิ่มขึ้น 127.53 จุด , +2.24%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 321.38 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, +2.55%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,543.58 จุด เพิ่มขึ้น 111.29 จุด, +2.51%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,000.96 จุด เพิ่มขึ้น 126.70 จุด, +1.28%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 7.7% ปิดที่ 22.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.05 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 26.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

น้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ประธาน IEA กล่าวว่า ความต้องการน้ำมันดิบดิ่งลง เพราะการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัส ประกอบกับสงครามราคาระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย

อ่านข่าว

น้ำมันดิบ WTI ร่วง 8% ความต้องการทั่วโลกลด 20% สหรัฐฯ ยุติซื้อเก็บคลังสำรอง