HoonSmart.com>>ตลาดคาดเฟดพร้อมจะลดดอกเบี้ยลงอีกครั้ง หลังจากเพิ่งมีมติฉุกเฉินกดไปพรวดเดียว 0.50% นำดอกเบี้ยโลกขาลงไปหา 0% ส่วนไทยกนง.มีนัดประชุม 25 มี.ค. คลังรอไม่ไหว ชงมาตรการชุดแรกสู้โควิด-19 เข้าครม.เศรษฐกิจ 6 มี.ค.นี้ คาดใช้เงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท เปิดลงทะเบียนแจกเงิน 1,000-2,000 บาท คาดว่าจะมีผู้รับประโยชน์มากกว่า 14 ล้านคน พร้อมช่วยทุกกลุ่ม ปรับเกณฑ์ SSF อิง LTF นายกสมาคมบลจ. หารือทางการเคาะรูปแบบออกมาเร็วที่สุด ต่างชาติกลับมาซื้อหุ้น 1,245 ล้านบาทหลังจากทิ้งไปกว่า 9 พันล้าน ขายตราสารหนี้ 6,397 ล้านบาท ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 0.77% ลดลง 0.11% ราคาทองในประเทศเพิ่มขึ้นบาทละ 450 บาท
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันที่ 6 มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและและเยียวยาผลกระทบไวรัสโคโรนา ชุดที่ 1 คาดว่าจะมีวงเงินมากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยมีมาตรการสำคัญคือการแจกเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย มนุษย์เงินเดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และเกษตรกร อยู่ระหว่างการพิจารณาวงเงินที่เหมาะสมระหว่าง 1,000-2,000 บาท และจะแจกครั้งเดียวหรือทยอยเป็นรายเดือน เพื่อต้องการให้มีผลทันทีในช่วง 3-4 เดือนนี้ คาดว่าจะมีผู้รับประโยชน์มากกว่า 14 ล้านคน ผู้ที่ร่วมโครงการจะต้องลงทะเบียน เมื่อได้รับโอนเงินก็สามารถกดเป็นเงินสดไปใช้ได้ทันที
นอกจากนั้นจะมีมาตรการภาษี เพื่อช่วยผู้ประกอบการให้สามารถจ้างงานลูกจ้างต่อไป โดยให้นำค่าใช้จ่ายจากการจ้างงานมาหักค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 1 เท่า และจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่ายลดลง และยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมาก (ซอฟท์โลน) เพื่อไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายอุตตม กล่าวว่า ยังจะมีมาตรการช่วยเหลือตลาดทุน โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมสรรพากร และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หารือกัน เพื่อปรับเกณฑ์กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ให้ใช้เหมือนกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นชั่วคราว ส่วนจะเพิ่มวงเงินลงทุนได้ 5 แสนบาท และระยะเวลาการถือครอง 7 รอบบัญชีเหมือนเดิมหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา
“การออกมาตรการครั้งนี้ได้ให้ ธปท.เข้ามาหารือด้วย เพื่อให้เห็นภาพรวมชุดมาตรการทั้งหมดว่าจะดำเนินมาตรการอย่างไรบ้าง และเพื่อให้ ธปท.ไปพิจารณาว่าจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรต่อไปก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ และหากออกมาตรการดูแลชุดที่ 1 แล้วเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ก็จะออกมาตรการชุดที่ 2 และ 3 ทันที ส่วนกรณีเฟดลดดอกเบี้ยลง 0.50% เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว ส่วนไทยเป็นอำนาจของ ธปท.จะตัดสินใจว่าจะปรับลดดอกเบี้ยเร่งด่วนเช่นเดียวกันหรือไม่ “นายอุตตม กล่าว
ด้านนายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยยHoonSmart.com ว่ามาตรการปรับเกณฑ์ให้ SSF ใช้เหมือน LTF แม้เป็นมาตรการระยะสั้น แต่จะช่วยสร้างเซนทิเม้นท์กับตลาดในภาพรวมและสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้ โดยสมาคมฯ และบลจ.พร้อมพูดคุยรูปแบบของกองทุนให้ได้ออกมาเร็วที่สุด
วันที่ 5 มี.ค. 2563 ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าตีกลับขึ้นมากว่า 500 จุด ตลาดหวังว่าเฟดจะดอกเบี้ยลงอีกครั้งในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. หลังจากเพิ่งมีมติฉุกเฉินลดลงไป0.50% เหลือ 1.00-1.25% ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลงไปต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ไม่ถึง 1% และธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ปรับลงตาม เช่น ฮ่องกงลดลง 0.50% ส่วนไทยไม่มีการประชุมด่วน นัดหารือ 25 มี.ค.ตามกำหนดเดิม
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดมีโอกาสที่กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% และจะส่งผลต่อเนื่องให้อัตราดอกเบี้ยของตลาดการเงิน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ทยอยปรับลดลงตามอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดภาระต้นทุนทางการเงินลงได้ระดับหนึ่ง ส่วนเฟดยังมีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อย 0.50% ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ตลาดสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า เริ่มสะท้อนโอกาสประมาณ 9% ที่จะเห็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกลับไปอยู่ในกรอบ 0.00-0.25% ในกรณีที่การระบาดของ โควิด-19 รุนแรงในวงกว้าง และกระจายตัวไปยังหลายๆ ประเทศมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทยเปิดลดลงกว่า 13 จุด ตามดัชนีดาวโจนส์ที่ทรุดลงกว่า 785.91จุด รูดลง 2.94% ไม่ตอบรับเฟดลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% สุดท้ายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,378.61 จุด +3.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 58,586.96 ล้านาท นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ1,245 ล้านบาท หลังจากขายติดต่อกันสองวันกว่า 9,000 ล้านบาท และขายตราสารหนี้ 6,397 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 0.77% ลดลงจากเมื่อวาน -0.11%
ส่วนสัญญาทองคำล่วงหน้าปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลให้ราคาขายในประเทศเปิดเพิ่มขึ้นถึงบาทละ 600 บาท ก่อนที่จะปรับลดลงครั้งละ 50 บาท 3 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 450 บาท
อ่านข่าว
