MARKET INSIGHT
รายงานภาวะตลาด ประจำวันที่ 9-13 ธ.ค.2562
• ในอาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความตึงเครียดเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาอีกครั้ง หลังปธน. Trump ระบุว่าไม่เร่งรีบให้ได้ข้อตกลงการค้ากับจีนในปีนี้ และอาจรอให้การเลือกตั้งปธน.เสร็จส้ินก่อน ส่งผลให้แนวโน้มสงครามการค้ามีท่าทียืดเย้ือ และกระทบต่อความเช่ือมั่นนักลงทุน ทั้งนี้Bloomberg ได้รายงานว่า สหรัฐฯ กับจีนยังมีการเจรจาการค้าอยู่
• ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงอ่อนแอ โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง -0.2 จุด เป็น 48.1 เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อภายนอกประเทศปรับตัวลดลงกลับเข้าสู่เกณฑ์หดตัวอีกครั้ง ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนฟื้นตัวขึ้น +1.0 จุด เป็น 46.9 จุด สูงสุดในรอบ 3 เดือน ดัชนีภาคการผลิตจีนปรับตัวเพิ่มข้ึน +0.1 จุด เป็น 51.8 สูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี และดัชนีภาคการผลิตญี่ปุ่นฟ้ืนตัวข้ึน +0.5 จุด เป็น 48.9 จุด แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์หดตัว
• OPEC ตัดสินใจลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงอีก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน ต่างจากตลาดคาดว่าจะคงสัดส่วนการลดที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน การลดปริมาณการผลิตเพิ่มเติมจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 2563 จนถึง มี.ค. 2563 เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันดิบ ท่ามกลางความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มสูงสุดในประวัติการณ์
• แนะนำ “ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX หลังจากที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้ Outperform ตลาดมาพอสมควรแล้ว ประกอบกับธปท.จะเข้ามาควบคุมการเก็บค่าธรรมเนียม SME เพื่อให้ค่าธรรมเนียมเหมาะสมกับต้นทุน อาจส่งผลให้รายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการทางการเงินของกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบ ประกอบกับสินเชื่อในเดือนต.ค.กลับมาลดลง ทั้งที่เป็นช่วง High Season ของการปล่อยสินเชื่อ
• จับตาการประชุม Fed ในวันที่ 11 ธ.ค. คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.50 – 1.75%
• จับตาการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ ในวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นตัวก าหนดทิศทางของ Brexit หากพรรค Conservative ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลปัจจุบันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้ส าเร็จ จะช่วยให้ข้อตกลง Brexit มีโอกาสผ่านสภามากขึ้น
• จับตาการประชุมประจำปี Central Economic Working Conference (CEWC) ของจีน ในช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งรัฐบาลจะประกาศนโยบายและก าหนดทิศทางเศรษฐกิจปี 2563 โดยคาดว่ารัฐบาลจะยังคงรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจีนต่อไป เนื่องจากหนี้สินยังอยู่ในระดับสูง
กลยุทธ์การลงทุน:
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอสสมอลแคป (SCBUSSM)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET BANKING SECTOR INDEX (SCBBANKING)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH)
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCBEUSM)