HoonSmart.com>>”ชาญอิสสระ” มองภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมกลางเมือง-ชานเมืองยังเติบโต กลุ่มลูกค้าระดับบนต้องการซื้อเพื่ออยู่จริง พร้อมเปิดตัวลักชัวรี่คอนโด “ดิ อิสสระ สาทร” มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท ใจกลางเมืองย่านสาทร ภายใต้แนวคิด “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” คาดก่อสร้างเสร็จปี 65
นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันนี้ว่า คอนโดมิเนียมที่มีทำเลอยู่ในย่านกลางเมืองและชานเมืองยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตลาดกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ยังมีความต้องการหาสินค้าที่มีคุณภาพมาตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองที่มองหาคอนโดมิเนียมในย่านกลางเมือง พร้อมต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ล่าสุดชาญอิสสระ ได้เปิดตัวลักชัวรี่คอนโด “ดิ อิสสระ สาทร” (The Issara Sathorn) บนทำเลย่านถนนจันทน์-สาทร ถนนสายแห่งมนต์เสน่ห์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมนต์เสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญๆ รวมถึงสถานที่ที่รวมแหล่งของอร่อยมากมาย และยังเป็นทำเลอยู่ใกล้ใจกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างสีลม สาทร มีการเดินทางที่สะดวกสบาย อีกทั้งยังเป็นโซนที่มีถนนรายล้อม (Grid Road System) ประกอบด้วยทางด่วน รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) รถด่วนพิเศษ (BRT) ร่วมถึงการเดินทางทางเรือ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางให้เกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสร้างความสะดวกสบายให้กับการใช้ชีวิต ทั้งการพักผ่อน การจับจ่ายซื้อของ สถานศึกษา สถานพยาบาล รวมถึงความสะดวกสบายด้านการเดินทางไปทำงานในย่านสีลม-สาทร อีกด้วยๆ
“กลุ่มลูกค้าของชาญอิสสระ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่จริง เราจึงพิถีพิถันอย่างมากในการพัฒนาโครงการต่างๆ รวมถึงโครงการ ดิ อิสสระ สาทร ด้วย ตั้งแต่การมองหาทำเลที่ตั้งของโครงการที่มีศักยภาพ มีสภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวมที่ดี การคมนาคมที่สะดวก อีกทั้งโลเคชั่นต้องเหมาะสำหรับการได้พักผ่อนจริงๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ที่ ดิ อิสสระ สาทร เราให้พื้นที่ส่วนที่เป็น Facility มากมีการแบ่งพื้นที่ออกมาสำหรับทำโซนต่างๆ ให้ผู้พักอาศัยได้มาใช้พักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นชั้นของสระว่ายน้ำ ที่แบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ และสระว่ายน้ำระบบน้ำร้อน หรือวารีบำบัด โซน The Sky Gym ที่สามารถออกกำลังกายและมองเห็นวิวโดยรอบโครงการ” นายสงกรานต์ กล่าว
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อนที่มีอยู่หลายโซน ทั้ง The Park, The Green, The View รวมถึงพื้นที่จอดรถระบบ Auto Parking ซึ่งถือเป็นการลงทุนในสิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องการมอบให้กับลูกค้าในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้การออกแบบเราเลือกใช้บริษัท A49 ซึ่งมีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการออกแบบที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนาน มาออกแบบโครงการให้ตรงตามวิถีการอยู่อาศัยของโลเคชั่นในย่านถนนจันทน์-สาทรแห่งนี้ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ชาญอิสสระ ใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ให้ตรงตามกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มนักลงทุน ได้มีคุณภาพชีวิต และความสะดวกสบายที่ครบครัน
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ขึ้นไป ใจกลางเมือง ดีมานด์ ซัพพลาย ในช่วงครึ่งปีนี้พบว่า ผู้พัฒนาโครงการมีความระมัดระวังในการพัฒนาโครงการในกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้สินค้าที่ออกมาในตลาดนี้มีคุณภาพดีและอยู่ในทำเลที่น่าสนใจจริงๆ โดยมีอุปทานทั้งหมด 93,122 ยูนิต เป็นอุปทานใหม่ในครึ่งปีนี้จำนวน 3,262 ยูนิต ลดลงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นผลดีเพราะทำให้ห้องชุดที่เปิดใหม่สามารถขายได้เร็วขึ้น สำหรับความต้องการคอนโดมิเนียมในกลุ่มนี้ในปีนี้ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่กลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในย่านสาทร ในปัจจุบันมีโครงการจำนวนทั้งสิ้น 22,255 หน่วยจากทั้งหมด 48 โครงการ โดยมียอดขายรวม 84% ซึ่งมียอดขายรวมดีกว่ายอดขายรวมของตลาดที่อยู่ที่ 82% ในส่วนของราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ขึ้นไป ใจกลางเมืองอยู่ที่ 233,200 บาทต่อตร.ม.ในขณะเดียวกันราคาเฉลี่ยในย่านสาทรอยู่ที่ 214,400 บาทต่อตร.ม. นับเป็นราคาที่น่าสนใจและจับตามองความต้องการคอนโดในย่านนี้มาจากทำเลที่ใกล้เมือง สถานที่ทำงานมีถนนเชื่อมต่อหลายสายสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ได้ รวมทั้งยังใกล้สถานศึกษา และใกล้ชุมชนที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเช่น เจริญกรุง สาธุประดิษฐ์ นางลิ้นจี่และเย็นอากาศด้วยความน่าสนใจ สำหรับทำเลย่าน สาทร-ถนนจันทน์ นั้นมาจากการผสมผสานความเป็นชุมชนเก่าเข้ากับความสะดวกสบายจากการใกล้แหล่งธุรกิจใจกลางเมือง ในอนาคตใกล้โครงการยังจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่านอีกด้วย
สำหรับกลยุทธ์การขายของ Nexus ในการกระตุ้นยอดขายโครงการนั้น เนื่องจากทาง Nexus เห็นว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการจะเป็นผู้ซื้ออยู่อาศัยเองมากกว่า 70% และมีกลุ่มนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติอีกบางส่วน ซึ่งการทำการตลาดและการขายสามารถทำกับลูกค้ากลุ่มผู้อยู่อาศัยเองในทำเลนี้ก่อนโดยจะมีห้องราคาพิเศษในวันงานเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกห้องที่สวยในราคาที่ดีที่สุดก่อนใคร
จุดขายที่สำคัญของโครงการคือเรื่องของทำเลที่เป็นชุมชนเก่าแต่ในขณะเดียวกันก็เชื่อมต่อไปยังศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ บริเวณสาทรและพระราม 4 ได้อย่างง่ายดาย เรื่องของวิวที่ครบโดยมี 2 รูปแบบในโครงการเดียวทั้งวิวที่มองเข้าไปใจกลางเมืองและวิวคุ้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม รวมถึงการให้ความสำคัญกับที่จอดรถ ที่มีเพียงพอสำหรับห้องชุดทุกยูนิตในโครงการ และที่สำคัญที่สุดยังเป็นคอนที่โดพัฒนาโดยกลุ่มชาญอิสสระที่จะมั่นใจได้ว่า ทำสินค้าคุณภาพ คิดและใส่ใจเพื่อทำสินค้าให้ตอบรับกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ กล่าวว่า สำหรับโครงการ ดิ อิสสระ สาทร เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 270 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ลบ. จะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จประมาณปี 2565 ราคาเริ่มต้น 4.88 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1-2-60 ไร่ บริเวณถนนจันทน์-สาทร มีขนาดพื้นที่ห้องเริ่มต้น 32.75-188 ตร.ม. มีห้องให้เลือกถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ ห้องแบบ 1 ห้องนอน, ห้องแบบ 2 ห้องนอน, ห้องแบบ 3 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ 3-4 ห้องนอน โดยแต่ละรูปแบบได้มีการออกแบบฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยที่สร้างความแตกต่างให้ตรงกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “ใช้ชีวิตอิสสระ…ให้สุดในทุกด้าน” เน้นมุมมองวิวของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา-บางกะเจ้า ที่มีความสงบ และวิวของสังคมเมืองที่มีสีสันสดใส มีชีวิตชีวา