เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ปัจจัยพื้นฐานใช้ไม่ได้ผล? ราคาจะไปในทิศทางไหนขึ้นอยู่กับ”เจ้ามือ” จู่ๆนักลงทุนก็ขาดทุนยับเยิน เพราะบังเอิญไปซื้อหุ้นที่ถึงคิว”ถูกเชือด”
เมื่อเห็นปรากฎการณ์การซื้อขายหุ้นบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 ราคาหุ้นร่วงแรงเกือบ 9 % และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) วันที่ 1 พ.ย.ที่เพิ่งผ่านมา ดิ่งฟลอร์สนิท พูดได้คำเดียวว่า “โหดเหี้ยมมาก”
เป็นเกมที่เล่นไม่ยาก และใช้เงินนิดเดียว เพียงใช้เครื่องมือ “เล่นขาลง” ก็ได้เงินมหาศาลจากการปล่อยข่าวลือ ทุบหุ้นดิ่ง แตกต่างจากอดีตที่ลากราคาขึ้นต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าจะสำเร็จ
เชื่อว่าทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เห็นความผิดปกติของหุ้นทั้ง 2 ตัว และกำลังตรวจสอบข้อมูลหาหลักฐานอยู่
แต่อย่าปล่อยให้เรื่องเงียบเหมือนหลายกรณีที่ผ่านมา
ถ้าจำกันได้ เมื่อประมาณต้นเดือนมี.ค. 2561 หุ้น EA ก็เคยร่วงแรงผิดปกติ เพราะข่าวลือหลายเรื่อง “สมโภชน์ อาหุนัย” ขายหุ้นบ้าง บริษัทจะเพิ่มทุน โครงการแบตเตอรี่ล่มแล้ว ฯลฯ ราคาลงติดต่อกันหลายวัน จน”สมโภชน์”นั่งไม่ติด ต้องออกมาแถลงข่าวโต้ข่าวลือทุกเรื่อง ในวันที่ 19 มี.ค.2561 เพื่อดึงสถานการณ์การซื้อขายหุ้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ครั้งนั้น มีผู้ถือหุ้น EA ส่งหนังสือถึงก.ล.ต.เพื่อให้มีการตรวจสอบการซื้อขายที่ผิดปกติ แต่บริษัทไม่ได้ทำหนังสือ เพราะในแง่กฎหมาย ราคาหุ้นที่ลดลง บริษัทไม่ใช่เป็นผู้เสียหาย ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักลงทุน
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมานานกว่า 1 ปี ไม่ทราบว่าผลการตรวจสอบเสร็จแล้วหรือยัง หรือตรวจสอบแล้วไม่พบผู้กระทำความผิด แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก.ล.ต.น่าจะรายงานความคืบหน้าออกมาบ้าง
ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ EA และ JAS สดๆร้อนๆ คงไม่”เงียบ” เหมือนที่ผ่านมา
อย่าปล่อยให้นักลงทุนมีความรู้สึกว่า”ใครจะทำอะไรก็ได้ในตลาดหุ้น” และในที่สุดเรื่องก็เงียบหายไปเอง
เป็นที่สังเกตุว่า ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.มีการไล่จับนักปั่นหุ้นขึ้นขาเดียว เห็นได้จากการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา การประกาศลงโทษผู้กระทำความผิด ในการสร้างราคา ไม่เคยมีคดีไหนที่ถูกลงโทษเพราะ”ทุบหุ้น” ทั้งๆที่ทำให้ราคาเคลื่อนไหวผิดปกติเหมือนกัน และสร้างความเสียหายมากด้วย เมื่อเปรียบเทียบราคาที่ไหลลงกับมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2,000-3,000 ล้านบาท/วัน สำหรับหุ้น JAS และ EA
ถึงเวลาแล้วที่ตลาดหลักทรัพย์และก.ล.ต.ต้องทบทวนการตรวจสอบ ใครทุบหุ้นก็ต้องถูกลงโทษ และต้องลากตัวกลุ่มที่ทำผิดมาลงโทษให้ได้
เพราะสินค้าและเครื่องมือที่ตลาดหลักทรัพย์จัดให้นักลงทุนเป็นดาบสองคม มีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็น DW หรือ Blocktrade ,Short sell เพื่อบริหารความเสี่ยงและหาผลตอบแทนได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง กลับถูกใช้เครื่องมือเอาเปรียบนักลงทุน ด้วยวิธีง่ายๆ อาจจะขายหุ้นออกไปก่อน หรือเล่นขาชอร์ต เพียงแค่ปล่อยข่าวลือ สร้างความตื่นตระหนกให้เกิดขึ้นในตลาดแล้ว เมื่อราคาหุ้นดิ่งลงเหว เป็นโอกาสในการหากำไรก้อนใหญ่ โดยเน้น”หุ้นมวลชน หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน” เท่านั้น
เชื่อว่าด้วยฝีมือและระบบการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพของตลาด-ก.ล.ต. น่าจะพบตัวการไม่ยาก เพราะต้นตอข่าวลือ EA เรื่องสหกรณ์ล้มดีลซื้อรถยนต์ EV 3,500 คัน ถูกจุดพุลมาจากกระทู้พันทิป แต่เมื่อบรรลุเป้าหมาย ก็มีการลบออกไปทำลายหลักฐาน ซึ่งตลาดสามารถประสานหามือโพสต์ได้ ที่สำคัญยังมีข้อมูลการซื้อขายผิดปกติทั้งหุ้น EA และ JAS จึงน่าจะลากตัวคนทำลายตลาดมาชี้แจง เพื่อนำไปสู่กระบวนการเอาผิดให้ได้ อย่าดูเหมือนเสือที่น่ากลัว แต่จริงๆแล้วเป็นแค่กระดาษเท่านั้น