“จีแคปปิตอล” ดึงพันธมิตรจีนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน หวังรุกธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลเต็มสูบปีหน้า ชูนวัตกรรมบริการสินเชื่อผ่านมือถือ หรือโมบายเลนดิ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าฐานราก ซึ่งเป็นกลุ่มที่จีแคปมีฐานข้อมูลแข็งแกร่ง
นายสเปญ จริงเข้าใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล (GCAP) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงการร่วมทุน Memorandum of Understanding (MOU) กับบริษัทต่างชาติ ในการขยายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อย ในรูปแบบใหม่แบบ Digital Lending เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต โดยน่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จในต้นปีหน้า และให้บริการกับลูกค้าทั่วไปได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2562
บริษัท จี แคปปิตอล จะร่วมทุนกับบริษัท 9F International Holding PTE. LTD (9F) ซึ่งเป็นบริษัททางการเงินชั้นนำจากประเทศจีนโดยความร่วมมือในการสร้างบริษัทการเงิน ให้บริการปล่อยสินเชื่อที่เป็นการให้บริการแบบดิจิทัลเลนดิ้ง ซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อยเป็นหลัก โดย จีแคป จะถือหุ้นในสัดส่วน 51% โดยกลุ่ม 9F จะถือหุ้นในสัดส่วน 49% การบริหารจัดการจะอยู่ภายใต้การนำของทีมบริหารของ บริษัทฯ ส่วนของ 9F จะรับผิดชอบในเรื่องการร่วมกันในการจัดหาแหล่งเงินทุน การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปล่อยและการบริหารจัดการสินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อย
บริษัท 9F International Holding PTE. LTD เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆในการดำเนินธุรกิจการเงินจากประเทศจีน และมีเป้าหมายจะเป็นบริษัท Fintech ชั้นนำของโลก มีฐานลูกค้าในกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการใช้บริการสินเชื่อมากกว่า 68 ล้านคนในแถบภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเป็นหลัก
“จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้จีแคปและ 9F สามารถบรรลุวัตถุประสงค์หลักของความร่วมมือในครั้งนี้ คือเข้ามาร่วมมือช่วยขยายธุรกิจทางการเงินโดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อยสินเชื่อบุคคลที่ตอบโจทย์มากที่สุด บริการนี้เปิด 24 ชั่วโมง 7 วัน ขอสินเชื่อเวลาใดก็ได้ โดยลูกค้าจะรู้วงเงิน ดอกเบี้ย และยอดผ่อนชำระ ต่อเดือนทันทีตลอดเวลา ซึ่งจะเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วไปโดยเฉพาะระดับฐานรากในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง แม่นยำและเป็นธรรม และจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างโอกาสให้กับคนกลุ่มระดับล่างที่ไม่ได้มีความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยผ่านนวัตกรรมแบบใหม่ที่ทันสมัย และสะดวก โดยผ่านโทรศัพท์มือถือ” นายสเปญ กล่าว
นายสเปญ กล่าวว่า โครงการนี้ใช้เวลาประมาณ 5 เดือนในการศึกษารายละเอียดความร่วมมือต่างๆ ร่วมกัน โดยบริษัทจะต้องคืนไลเซนส์สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และจัดตั้งบริษัทร่วมทุน หลังจากนั้นต้องยื่นขอไลเซนส์ใหม่จากธปท. คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการยื่อขอไลเซนส์ใหม่ และบริษัทร่วมทุนจะเริ่มดำเนินกิจการในปี 2562
ทั้งนี้ จุดเด่นของบริษัทคือการเข้าใจฐานลูกค้าอย่างแท้จริง โดยบริษัทมีฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่มฐานราก อาทิผู้ประกอบการในตลาดคลองเตย ตลาดไท ที่มีความต้องการสินเชื่อที่สามารถเข้าถึงได้รวดเร็ว เนื่องจากกลุ่มลูกค้าต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนส่วนบุคคล ขณะที่ 9F จะมาช่วยตอบโจทย์ในส่วนของเทคโนโลยี โดย 9Fดำเนินกิจการมา 12 ปี และคลุกคลีกับธุรกิจการเงินและเทคโนโลยีมาตลอด
“ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2561 จะยังเป็นไปตามเป้าหมาย และในปี 2562 บริษัทจะมุ่งเน้นพัฒนาบริการสินเชื่อเกษตรกรมากยิ่งขึ้น” นายสเปญ กล่าว