HoonSmart.com>>”บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ “(BAM) โชว์ผลงาน 25 ปี แก้ไขหนี้เสียแล้วกว่า 160,000 ราย ก้าวสู่ปีที่ 25 เดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กรก้าวสู่ DIGITAL ENTERPRISE เต็มรูปแบบ ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 กางโรดแมปยกระดับองค์กรเติบโตยั่งยืน ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ เตรียมส่ง “อิสระ เดอะซีรีส์” ชวนลูกหนี้ BAM ประนอมหนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน “BAM Choice” ดึงคนรุ่นใหม่ซื้อทรัพย์กับ BAM ออนแอร์สื่อโซเชียล
นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจ 25 ปี BAM สามารถช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้ข้อยุติจากการแก้ไขปัญหาหนี้เป็นจำนวนกว่า 160,000 ราย คิดเป็นภาระหนี้มีเงินต้นกว่า 480,000 ล้านบาท เปรียบเสมือนแก้มลิงที่ช่วยรองรับหนี้เสียไม่ให้ไหลเข้ามาท่วมระบบสถาบันการเงิน และสามารถจำหน่ายทรัพย์ไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 53,000 รายการ คิดเป็นราคาประเมินกว่า 123,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจเกิดความยั่งยืนได้ต่อไป
ทั้งนี้ BAM มีนโยบายการดำเนินธุรกิจ เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายเข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ด้วยเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การปรับลดหนี้ การโอนตีทรัพย์ชำระหนี้ การให้ลูกหนี้สามารถซื้อคืนทรัพย์หลักประกันได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่างๆ ช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น “โครงการสุขใจได้บ้านคืน” ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของ BAM ที่ต้องการคืนทรัพย์หลักประกันทั้งที่อยู่อาศัยหรือที่ทำกินให้แก่ลูกหนี้ และในโอกาสครบรอบ 25 ปี BAM ได้เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ที่มีหลักประกันไม่เกิน 25 ล้านบาท ชำระหนี้เพียง 80% ของราคาประเมิน ในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระไม่เกิน 25 ปี
“โครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ” สำหรับลูกหนี้กลุ่ม Startup และ SME ที่มีภาระเงินต้นต่อรายไม่เกิน 25 ล้านบาท ชำระหนี้เพียง 80% ของราคาประเมิน อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน ผ่อนชำระไม่เกิน 25 ปี ขณะเดียวกัน BAM ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-30 พ.ย. 2567 สำหรับลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้และยังมีการผ่อนชำระอยู่
“BAM เปิดโอกาสให้ลูกหนี้ทุกรายสามารถเข้ามาเจรจาประนอมหนี้เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน บนพื้นฐานการพิจารณาถึงความสามารถที่แท้จริง และกำลังการผ่อนชำระของลูกหนี้ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งหากลูกหนี้ได้รับจดหมายเชิญเข้ามาประนอมหนี้กับ BAM โปรดอย่าลังเลที่จะตัดสินใจเข้ามาหา BAM เราจะดูแลลูกหนี้ทุกรายของเราเสมือนเป็นลูกค้าชั้นดีของธนาคารพาณิชย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
ทั้งนี้ BAM ได้จัดทำแอปพลิเคชั่น “BAM Choice” ช่วยให้ลูกหนี้เจรจาประนอมหนี้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งลูกหนี้ NPL ปัจจุบัน 2 แสนรายหากติดต่อเข้ามาประนอมหนี้ เงินจะเข้าบริษัทเยอะมาก หากประสบความสำเร็จช่วยลูกหนี้รายเล็กๆเพิ่มขึ้นได้ประนอมหนี้ได้เร็ว ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดสำหรับซื้อทรัพย์ใหม่ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้มองว่าการนำข้อมูลและเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพื่อให้ลูกหนี้สามารถหมดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 7 ปี ตั้งเป้าเป็นไม่เกิน 5 ปี
ปัจจุบันบริษัทมีลูกหนี้ประมาณ 200,000 ราย มูลหนี้รวม 500,000 ล้านบาทและมีทรัพย์รอการขาย (NPA) ประมาณ 5-6 หมื่นรายการ ประมาณแสนล้านบาท
นายบัณฑิต กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นนั้นมองว่าปัญหาเพิ่มขึ้นตั้งแต่โควิด-19 เริ่มฟื้นในบางจังหวัดและบางภูมิภาค ซึ่งลูกหนี้หลายรายธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่ตกไปแล้ว (Sunset Industry) แก้ไม่ได้ จำเป็นต้องเร่งปรับโครงสร้างหนี้เพื่อหาทางออก สถานการณ์ตอนนี้ยากลำบากมากขึ้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังพยายามช่วยอยู่ คาดว่าสถานการณ์น่าจะค่อยๆ ดีขึ้นหวังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายค่อยๆลดลง
อย่างไรก็ตามแต่การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นโยบายกีดกันการค้ากับจีนจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ สินค้าจีนจะดั๊มพ์ราคาลงมาหรือไม่ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตของไทยแย่ลงได้ในบางเซ็คเตอร์ ซึ่งลูกหนี้ต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและต้องรีบปรับตัว ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้ายังไม่เห็นภาพชัดเจน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์เข้ามาส่งผลต่อการค้าโลกค่อนข้างมาก
“ภาพรวมปีนี้เราซื้อ NPL น้อยมากจากปีก่อน ครึ่งปีแรกซื้อเยอะแต่ครึ่งปีหลังเริ่มชะลอและเลือกซื้อมากขึ้น แต่ถ้ารวมกับหนี้ที่ผ่านบริษัทลูก (JV) ก็เข้าเป้าแล้ว 9,000 กว่าล้านบาท แต่เฉพาะเราไม่เกิน 8,000 ล้านบาท” นายบัณฑิต กล่าว
สำหรับเป้าหมายการซื้อหนี้ในปี 2568 จะไม่ต่างจากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 9,000 พันล้านบาทและมีเป้าหมายการเติบโตปีละ 8-10% เป็นการเติบโตแบบออแกนิค แต่ระยะยาวการเติบโตจะได้แรงหนุนจากบริษัทลูก JV ทั้งสองแห่ง
ส่วนแนวโน้มหนี้เสีย (NPL) ในระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 2568 มองว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากปีนี้ขายให้เราได้ไม่หมด ปีหน้าก็เพิ่มขึ้น แต่จะเพิ่มขนาดไหนบอกได้ยาก ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของทางธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรและตั้งสำรองไว้มากน้อยแค่ไหน
ด้านดร.ธนกร หวังพิพัฒน์วงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAM กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีซึ่งเป็น Mega Trend เข้ามามีบทบาทอย่างรวดเร็วในทุกภาคส่วน BAM ได้วางแนวทางขององค์กรฯ เพื่อให้ทันต่อธุรกิจในยุคดิจิทัล 4.0 โดยมีเป้าหมายการ Transformation 3 ส่วน ได้แก่
1.) Transformation for People มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ BAM ทั้งหมด ได้รับ “ประสบการณ์” ที่ดี เช่น การตั้งเป้าหมายให้ลูกค้าได้รับแผนประนอมหนี้ที่ตรงกับความต้องการและเงื่อนไขของตนเองให้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การ Digitalization กระบวนการในการส่งจดหมาย Hello Letter หรือจดหมายเชิญประนอมหนี้
รวมไปถึงการจัดทำระบบ BAM Choice ซึ่งเป็นระบบ Mobile Application ที่ลูกหนี้สามารถเห็นแผนประนอมหนี้ที่เหมาะสมกับตนเอง ตลอดจนการขอเจรจาปรับเปลี่ยนแผนประนอมหนี้ผ่านทางออนไลน์ได้ ซึ่ง BAM Choice ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการชำระเงินผ่านทางช่องทางออนไลน์ และจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
ในปัจจุบัน BAM เตรียมนำระบบ AI มาช่วยในการประเมินกำลังความสามารถในการชำระเงินของลูกหนี้ และวิเคราะห์แผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมกับลูกหนี้อีกด้วย
2.) Transformation for Growth มีเป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเพิ่มยอดผลเรียกเก็บและช่วยลดค่าใช้จ่าย โดยทำ Digitalization Channel ในการสื่อสารกับลูกค้าแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาติดต่อ BAM ทุกช่องทางได้รับประสบการณ์ที่ดีในการให้บริการ นอกจากนี้ การนำ Data มาใช้ในการวิเคราะห์และช่วยในการตัดสินใจเพื่อให้การบริหารหนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.) Transformation for Efficiency ได้มีการจัดทำระบบบริหารจัดการสินทรัพย์ เพื่อให้กระบวนการในการติดตามและแก้ไขหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดหาเครื่องมือทางด้านดิจิทัล ที่ช่วยให้พนักงานสามารถใช้ระบบสารสนเทศระดับองค์กร (Enterprise Information System: EIS) เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการดำเนินงานและการตัดสินใจ
นอกจากนี้ ในโอกาสครบรอบ 25 ปี BAM ได้จัดทำซีรีส์ภายใต้ธีม “อิสระ เดอะซีรีส์ : BAM ทางออกสู่อิสระ” 2 เรื่อง ได้แก่ ซีรีส์ “BAM อิสระจากวังวนหนี้” มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ของ BAM เข้ามาประนอมหนี้และช่วยให้ลูกหนี้สามารถซื้อคืนทรัพย์หลักประกันได้ และ “BAM ฝันมีทรัพย์เป็นจริง” สานฝันชีวิตของคนทำงานวัยเริ่มต้นจากการซื้อทรัพย์ BAM ทั้งการซื้อเพื่อเป็นบ้านอยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน โดยจะออนแอร์บนสื่อโซเชียลมีเดียผ่านแพลตฟอร์ม Facebook, YouTube และ TikTok : BAM Thailand ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2567