LEO กำไร Q2 หด 41% ตั้งสำรองฯสูงขึ้น เชื่อ H2/67 โตมากกว่าครึ่งปีแรก

HoonSmart.com>>”ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์” (LEO) แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 2/67 กำไร 11.08 ล้านบาท หด 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (2566) จากรายการค่าใช้จ่ายพิเศษในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 10.5 ล้านบาท และตั้งสำรองภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านบาท ส่งครึ่งแรกปี 67 กำไรหด 43% ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตมากกว่าครึ่งแรกปี 2567 จากเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ ๆ

บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ในไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 11.08 ล้านบาท ลดลง 41% จากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีกำไร 18.82 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.035 บาท ลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มี 0.06 บาท

ส่วนครึ่งแรกปี 2567 มีกำไร 21.50 ล้านบาท ลดลง 43% จาดครึ่งแรกปี 2566 ที่มีกำไร 37.78 ล้านบาท

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 372.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 และเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทสามารถทำกำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 ปี 2567 ได้อย่างน่าพึงพอใจ โดยเติบโต 17% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 และเติบโต 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 เนื่องจากบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้า เพิ่มปริมาณการขนส่ง และเพิ่มค่าบริหารจัดการ เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือมีการปรับตัวสูงขึ้นได้ดีขึ้น

บริษัทมีการเติบโตรายได้อย่างมีนัยยะสำคัญจากธุรกิจบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร เช่น ค่าขนส่งทางบก ขนสินค้า และมีรายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มเติมจากการให้บริการเช่าตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิ โดยเติบโต 12% เมื่อเทียบระหว่างครึ่งแรกปี 2567 กับครึ่งแรกปี 2566 รวมถึงธุรกิจการให้บริการเช่าพื้นที่เก็บของขนาดเล็กมีการเติบโตที่ก้าวกระโดด 52% เมื่อเทียบระหว่างครึ่งแรกปี 2567 กับครึ่งแรกปี 2566

สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ลดลงจากครึ่งแรกปี 2566 เนื่องจากไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 10.5 ล้านบาท และถูกบวกกลับค่าใช้จ่ายดังกล่าวทำให้ต้องตั้งสำรองภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นอีก 2.5 ล้านบาท หากไม่นับรายการดังกล่าว กำไรจากผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2567 จะเท่ากับ 24.1 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 1 ปี 2567 ประมาณ 130% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 จะสูงกว่า 28% โดยรายการพิเศษดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งเดียว ไม่ส่งผลต่อไตรมาสที่เหลือของปี

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2567 บริษัทจะสร้างการเติบโตของกำไรขั้นต้น และผลประกอบการให้เติบโตมากกว่าครึ่งแรกปี 2567 เพราะบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ ๆ เช่น โครงการ Self Storage และ Wine Storage สาขา 3 ที่ถนนพระราม 4 รวมถึงจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการ JV อื่น ๆ ที่ได้มีการจัดตั้งในปี 2566 เช่น การขนส่งทางรางไปยังจีน-ลาว ของบริษัท LaneXang Express ที่มีรายได้แล้วในไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 3.2 ล้านบาท และการขนส่งสินค้าทางรางภายในประเทศของบริษัท Sritrang Leo Multimodal Logistics ที่มีรายได้แล้วในไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 19 ล้านบาท การให้บริการศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้าของบริษัท Advantis Leo ซึ่งทั้่ง 3 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในไตรมาส 3-4 ปี 2567 และเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Freight และ Non-Logistics ให้เติบโตต่อเนื่องใน 1-2 ปีข้างหน้า