PROEN คว้างานการท่าเรือฯ ติดตั้งระบบ CCTV ท่าเรือแหลมฉบังมูลค่า 232 ลบ.

HoonSmart.com>> “โปรเอ็น คอร์ป” (PROEN) เผย “โปรเอ็น เทเลบิซ” บริษัทลูก คว้างาน “การท่าเรือแห่งประเทศไทย” โครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบ CCTV ระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 232 ล้านบาท ภายในท่าเรือแหลมฉบัง ตอกย้ำศักยภาพแข็งแกร่ง งานด้านระบบรักษาความปลอดภัย ดัน Backlog แตะ 527 ล้านบาท มั่นใจมีโอกาสได้งานได้งานใหม่อีกเพียบ

นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานกรรมการบริหารบริษัท โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) ผู้ให้บริการ Data Center ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัท โปรเอ็น เทเลบิซ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PROEN ได้ลงนามในสัญญาในนามกิจการค้าร่วมเทเลบิซ กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ในโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) พร้อมบุคลากรบริหารจัดการและบำรุงรักษา จำนวน 225 กล้อง ระยะเวลา 5 ปี ของท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่าโครงการ 232 ล้านบาท

ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีความจำเป็นในการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบซอฟท์แวร์กล้องเฝ้าระวังชายฝั่งระยะไกลเพื่อวิเคราะห์ตำแหน่งเรือแบบเรียลไทม์ และระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนยานพาหนะ เพื่อรองรับการจัดทำแผนรักษาความปลอดภัย ท่าเรือ (Port Facility Security Plan) ให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อช่วยในการตรววจสอบบุคคล ยานพาหนะ หรือสิ่งแปลกปลอมภายในอาณาบริเวณ

นอกจากนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยของเรือ และท่าเรือระหว่างประเทศ รองรับการตรวจเพื่อขอรับหนังสือรับรองการปฏิบัติของท่าเรือเพื่อการรักษาความปลอดภัยของกรมเจ้าท่า

นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า การได้รับความไว้วางใจ จากการท่าเรือฯ ในการดำเนินการ ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด ท่าเรือแหลมฉบัง ถือเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินงานด้านระบบรักษาความปลอดภัยของ บริษัท โปรเอ็น เทเลบิซ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อย ของ PROEN ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโต และโอกาสการรับงานในอนาคต ส่งผลให้ PROEN มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ขยับเพิ่มขึ้น จาก ณ สิ้นพ.ค.2567 ที่ระดับ 301.82 ล้านบาท มาเป็น 527.64 ล้านบาท และยังช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ ให้เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายขยับ Backlog ให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท