SIRI บวก 4.42% แผนปี 66 โตทุกมิติทั้งยอดขาย-รายได้

HoonSmart.com>>หุ้น SIRI บวก 4.42% หลังประกาศ Business Plan 2566 เติบโตในทุกมิติทั้งยอดขายและรายได้ ผ่านแผนรุกเปิดโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวม 7.5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทุก Segment และสินค้า ลุ้นผลงานไตรมาส 4/65 ทำนิวไฮ-เล็งจ่ายปันผลครึ่งหลังปี 65

เมื่อเวลา 11.16 น. หุ้น SIRI บวก 4.42% มาที่ 1.89 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 885.76 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.83 บาท ขึ้นสูงสุด 1.90 บาท และต่ำสุด 1.81 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ”ซื้อ”หุ้นบริษัท แสนสิริ (SIRI) ราคาเป้าหมาย 2.10 บาท ประกาศ Business Plan 2566 เติบโตในทุกมิติทั้งยอดขายและรายได้ ผ่านแผนรุกเปิดโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวม 7.5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทุก Segment และสินค้า โดยเฉพาะเพิ่มพอร์ต High-end และคอนโดมากขึ้นเพื่อรองรับ Demand ต่างชาติที่กลับมา

นอกจากนี้ ตั้งเป้ายอด Presales +22% y-y ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้ายอดโอน (รวม JV) ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท +11% y-y เบื้องต้นประเมินกำไรไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 1.7-1.8 พันล้านบาท +36% q-q, +401% y-y ทั้งปี 2565 คาด +98% y-y และปี 2566 +6% y-y ทำ New High ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 พร้อมให้แนวรับ 1.75-1.73 บาท แนวต้าน 1.85 ถัดไป 1.95-2 บาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะ”ซื้อเก็งกำไร”หุ้น SIRI ราคาเป้าหมาย 1.9 บาท มีมุมมองบวกต่อการประชุมจากแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่โตสูง และเป็น New high รายไตรมาส รวมถึงคาดปันผลจ่ายครึ่งหลังปี 65 อย่างน้อย 0.08 บาท/ห้นุ คิด เป็น Dividend yield สูงถึง 4.4% และแผนธุรกิจ 2566 ที่ Aggressive โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่สูงถึง 75.0 พันล้านบาท (+75% y-y) และ เกือบ 50% เป็น premium segment ที่ SIRI มีความชำนาญ ทำให้ตั้งเป้า presale และ transfer โต 22% และ 11% ตามลำดับ และมีโอกาสที่กำไรสุทธิ 2566 จะทำ New high ได้ต่ออีกปี

ทั้งนี้ ลองทำ sensitivity หากอิงเป้าโอนของ SIRI มีโอกาสที่กำไรสุทธิ 2566 จะมี upside ราว 15% หรือเท่ากับ 4.75 พันล้านบาท และราคาเป้าหมายปี 66 มี Upside 15% เช่นกันที่ 2.20 บาท/หุ้น ถึงแม้คงซื้อเก็งกำไร แต่จาก upside ของราคาเป้าหมายปี 66 ที่มีได้อีก จึงแนะนำ Let profit run หลังราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมามาก โดยจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือการกลับมาให้น้ำหนักเปิดโครงการใหม่ตลาดบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชำนาญและผลตอบรับดีกว่าคาดช่วยชดเชยความกังวลเรื่องต้นทุนดำเนินงาน และต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่ากลุ่มฯ ในขณะที่ Highlight ระยะสั้นเป็นเรื่องแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/65-ไตรมาส 1/66 ที่จะสูงมากต่อเนื่อง และคาดครึ่งหลังปี 65 จะจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield เท่ากับ 4.4% (เฉพาะส่วนครึ่งหลังปี 65) ซึ่งถือว่าสูงมาก