หุ้นน้องใหม่ KWM เทรดวันแรกคึกคัก เหนือราคาจอง 19.23% จากราคาไอพีโอ 1.30 บาท ผู้บริหารเร่งสร้างผลงานมั่นใจปี 61 รายได้โตไม่น้อยกว่า 20% แถมมีโปรดักส์ใหม่ดันรายได้โดดเด่น คาด 3-5 ปีข้างหน้ามีสินค้าใหม่เพิ่มต่อเนื่อง
ราคาหุ้น KWM ปิดตลาดที่ 1.55 บาท เพิ่มขึ้น 19.23% หรือจากราคาไอพีโอที่ 1.30 บาทต่อหุ้น มูลค่าการซื้อขายกว่า 450 ล้านบาท จากราคาเปิดตลาดที่ราคา 1.75 บาทและแตะสูงสุดที่ 1.79 บาทและต่ำสุดอยู่ที่ 1.55 บาท
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายวันแรกในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) รู้สึกพอใจกับราคาหุ้นที่ เทรดวันที่ 1 ต.ค.2561 ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนที่มีต่อบริษัทในฐานะผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรที่มีการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของอุปกรณ์การเกษตรอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ยืมให้สถาบันการเงิน เพิ่มโอกาสในการเติบโต โดยบริษัทฯ มีนวัตกรรมเทคโนโลยีพื้นฐานเทคนิคด้านการเกษตร หากมีการพัฒนาที่ดีมองว่าอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตรในประเทศไทยยังโตได้อีก โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีด้านการเกษตร ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นทั้งหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock
“ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับหุ้น KWM อย่างอบอุ่น โดยทีมผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ขอสัญญาว่าจะเดินหน้าทำงานอย่างมุ่งมั่น ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และมั่นใจว่า นี่จะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของ KWM เราพร้อมที่จะสยายปีกขยายงานและขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” นายเอกพันธ์ กล่าว
นายเอกพันธ์ กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20- 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 260 ล้านบาท ส่วนปี 2562 คาดรายได้เติบโตมากกว่า 40% เนื่องจากจะเริ่มรับรู้กำลังการผลิตโรงงานใหม่เต็มปี ประกอบกับมีสินค้าใหม่คือใบผาลตัวใหญ่ ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนยอดขายของบริษัทให้เพิ่มขึ้นสำหรับผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา (2558-2560) บริษัทมีรายได้ 263 ล้านบาท, 276 ล้านบาท และ 260 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 27.80 ล้านบาท 35.78 ล้านบาท และ 20.83 ล้านบาท ตามลำดับ
“นอกจากตลาดเดิมที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้สินค้าอยู่แล้ว บริษัทฯยังมีแผนจะพัฒนาเพิ่มสินค้าใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตปีละ 20-30% ในช่วง 3-5 ปีนี้ เช่น การผลิตใบโรตารี่ การชุบแข็งใบเกลียวเอง การผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น เครื่องผสมปุ๋ย ซึ่งล้วนเป็นโครงการในอนาคตที่จะสร้างความเติบโตให้กับบริษัท” นายเอกพันธ์ กล่าว
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ KWM กล่าวว่า หุ้น KWM เปิดทำการซื้อขายวันแรกเป็นที่น่าพอใจ เป็นผลมาจากการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม และที่สำคัญ คือ นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีศักยภาพการเติบโตในอนาคตของอุตสาหกรรมการเกษตร จุดเด่นของ เค. ดับบลิว. เม็ททัลฯ คือการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร ซึ่งมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน และการมีคู่ค้ารายสำคัญอย่างบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตร นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทที่เติบโตสอดคล้องกับภาคเกษตรของประเทศไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะเป็นสินค้าวัตถุดิบตั้งต้นของอุตสาหกรรมหลากหลาย เชื่อว่าการระดมทุนในครั้งนี้ช่วยต่อยอดธุรกิจของ เค. ดับบลิว. เม็ททัลฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
“เหตุผลสำคัญที่สนับสนุนให้ราคาหุ้น KWM ได้รับการตอบรับที่ดี และยืนเหนือราคาจองได้ในวันนี้ มาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจอยู่ในเทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรม การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะเป็นแหล่งระดมทุนที่มีศักยภาพ และสนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตยิ่งขึ้นกว่าเดิมได้” นายชนะชัย กล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ บล.เออีซี , บล.คันทรี่ กรุ๊ป , บล.เคที ซิมิโก้ และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมของ KWM ไว้ถึง 1.90 – 2.40 บาท/หุ้น