HoonSmart.com>>”เอแอลที เทเลคอม” วางเป้า ปี 65 จัดจำหน่ายติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป 50 โครงการ เล็งกลุ่มลูกค้าโรงงาน-สำนักงาน-หน่วยงานรัฐ เจรจาอยู่มากกว่า 10 ราย ล่าสุดติดตั้งให้ “ไท่ซาน คอร์เปอเรท” คุ้มค่า ไม่ต้องลงทุนเอง ไม่เป็นภาระในการดูแล ช่วยลดค่าใช้จ่าย จากเดิมใช้ไฟ 3 แสนบาท/เดือน
น.ส.ปรียาพรรณ ภูวกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าการให้บริการธุรกิจการจำหน่ายและติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์รูฟท็อป) มากกว่า 50 โครงการ ตั้งใจว่าจะบุกตลาดทั้งในกลุ่มเอกชน และขยายฐานลูกค้าไปยังหน่วยงานภาครัฐ ที่มีอัตราค่าไฟฟ้าตั้งแต่ 1 แสนบาท/เดือนขึ้นไป โดยประสานงานร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ในรูปแบบเป็นผู้ลงทุน Private PPA ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ระหว่างเจรจามากกว่า 10 โครงการ
“บริษัทเริ่มธุรกิจนี้ ในปี 2564 กระแสตอบรับดีมาก โดย ALT เริ่มต้นในกลุ่มลูกค้ากิจการขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่สูงมากนัก” น.ส.ปรียาพรรณ กล่าว
น.ส.ปรียาพรรณ กล่าวว่า จุดแข็งของ ALT ในธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ประเด็นแรกมาจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงในการติดตั้ง แผ่น PV แบรนด์ Q cells อยู่ในกลุ่ม Tier 1 และได้รับการยอมรับด้านประสิทธิภาพสูงสุดในกลุ่มเดียวกัน เป็นแบรนด์ที่ได้วิศวกรรมจากประเทศเยอรมัน ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ มีจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่า ขณะที่ inverter แบรนด์ Huawei ซึ่งได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมสูงสุดในกลุ่มของ inverter
ALT ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับรูปแบบการซื้อขายไฟ หรือการลงทุน และความคุ้มทุน เพื่อให้เหมาะกับธุรกิจของลูกค้า รวมทั้งการเข้าถึงกลุ่มกิจการขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง และต้องการลดค่าไฟฟ้าลง โดยที่ไม่ต้องการลงทุน และเป็นภาระในการดูแลรักษาระบบเอง การให้คำปรึกษาและเข้าสำรวจหน้างานอย่างรวดเร็ว รวมถึงการออกแบบระบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า
ล่าสุดบริษัท ได้ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรูปแบบ Private PPA ให้กับบริษัท ไท่ซาน คอร์เปอเรท แล้วเสร็จเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีภาระค่าไฟฟ้าประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อเดือน หรือใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 200.7 กิโลวัตต์
ด้านนายวินิทร ตั้งวิรุฬห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไท่ซาน คอร์เปอเรท กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจร้านค้าส่งเน้นตลาด 20 บาททุกชิ้น ที่นำเข้าจากประเทศจีนเป็นหลัก โดยเปิดดำเนินการมานานประมาณ 5-6 ปีแล้ว มีสินค้าที่จัดจำหน่ายอยู่ไม่ต่ำกว่า 2 แสนรายการ ซึ่งสินค้าทุกอย่าง 20 บาทถือเป็นตลาดมีกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และคนจะตัดสินใจซื้อสินค้าง่าย จากราคาถูก ทำให้ตลาด 20 บาทยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาด 20 บาทก็ยังสามารถเติบโตได้ดี
เหตุผลที่ติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อป เพราะมองว่าจะช่วยประหยัดใช้ไฟฟ้าได้มาก ปัจจุบันบริษัทมีค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าราว 3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งถือเป็นต้นทุนสัดส่วนราว 20-30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากอาคารและคลังสินค้าติดแอร์ทั้งหมด
“ผมศึกษาเรื่องติดตั้งแผงโซลาร์มาซักพักแล้ว โดยมีความสนใจส่วนตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และศึกษาข้อมูลจากเพื่อนๆ ในแวดวง ซึ่งก็เคยมีบริษัทอื่นมาติดต่อที่จะติดตั้งแผงโซลาร์ให้เหมือนกัน แต่พอพิจารณาเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ต่างๆ แล้ว ถือว่า ALT ให้ประโยชน์สูงสุด มีความเสี่ยงน้อยมาก สร้างผลตอบแทนระยะยาว เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าแล้ว ที่สำคัญผมไม่ต้องลงทุนเองด้วย แถมทาง ALT ยังเป็นผู้มาดูแลรักษาให้ตลอดอายุสัญญาอีกด้วย รวมทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นายวินิทร กล่าว
สำหรับรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) นี้ ALT จะเป็นผู้ลงทุนในอุปกรณ์ การติดตั้ง แผงโซล่าร์บนอาคาร รวมถึงดูแลรักษาระบบให้ทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการจ่ายค่าไฟฟ้า (ที่ผลิตจากแผงโซลาร์) รายเดือนตามระยะสัญญา 15 ปี โดยอัตราค่าไฟฟ้าจะลดลงกว่า 10-30% และมั่นใจได้ว่าอำนาจในการผลิตไฟฟ้าที่ใช้งานเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นพลังงานสะอาด ดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกในขณะนี้ โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด