HoonSmart.com>>สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน”ครอบครัวดุษฎีสุรพจน์” กำลังพิจารณาขายหุ้น “สินมั่นคงประกันภัย” เผย 2 กลุ่มบริษัทประกันภัยต่างชาติ “กลุ่มเจนเนอราลี-LMG” สนใจเข้าประมูล คาดดีลมีมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6,700 ล้านบาท และลงทุนเพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,360 ล้านบาท จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ พบถือหุ้นเกือบ 53%
วันที่ 30 พ.ย. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย (SMK) กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการขายหุ้นใหญ่ของครอบครัวดุษฎีสุรพจน์
ทั้งนี้ได้คัดเลือกบริษัทผู้ซื้อหลายรายให้เข้าร่วมการประมูลรอบใหม่ รวมถึง 2 กลุ่มบริษัทประกันภัยระดับโลก ได้แก่ 1.กลุ่มเจนเนอราลี ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำระดับโลกจากอิตาลี และ 2.บริษัทลิเบอร์ตี้ มิวชวล อินชัวรันซ์ กรุ๊ป(LMG)
บริษัทสินมั่นคงประกันภัย กำลังทำงานร่วมกับที่ปรึกษาการเงินเกี่ยวกับข้อตกลงขายหุ้นดังกล่าว ซึ่งอาจมีมูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท และอาจรวมถึงการลงทุนครั้งใหม่อีกประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,360 ล้านบาท
จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ SMK ณ วันที่ 10 มี.ค.2564 มีบริษัท ดุษฎีสุรพจน์ โฮลดิ้ง ถือหุ้นมากที่สุดจำนวน 25.02% และมีผู้ถือหุ้นรายบุคคลของกลุ่มดุษฎีสุรพจน์ร่วมถือหุ้นอีก 4 คน รวมการถือหุ้นทั้งสิ้นเกือบ 53% คิดเป็นจำนวน 105.71 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 2,315.05 ล้านบาท หากคำนวณจากราคาปิดที่ระดับ 21.90 บาท ของวันที่ 30 พ.ย.2564 ทั้งนี้ระหว่างวันราคาหุ้นเด้งขึ้นแรงผิดปกติ พุ่งขึ้นไปสูงสุดแตะ 25 บาท ก่อนปรับตัวลงปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาทหรื 0.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.11 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ บริษัทสินมั่นคงประกันภัย รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2564 มีผลขาดทุนสุทธิ 3,662.39 ล้านบาท พลิกจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 160.21 ล้านบาท รวม 9 เดือนปีนี้ขาดทุนทั้งสิ้น 3,845.59 ล้านบาท พลิกจากกำไร 569.92 ล้านบาท สาเหตุมาจากการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้มียอดเคลมกว่า 6,800 ล้านบาท ขณะที่ผลงานที่ผ่านมามีกำไรตลอด เช่น ปี 2560 มีกำไรสุทธิกว่า 900 ล้านบาท ปี2561-2563 มีกำไรปีละ 600-700 ล้านบาท
ด้านคปภ. ประกาศให้บริษัทสินมั่นคงประกันภัย เป็น 1 ใน 3 ของบริษัทประกันภัยที่ได้รับการผ่อนผันตามมาตรการ เสริมสภาพคล่อง เพื่อจ่ายเคลมประกันโควิดให้กับประชาชน เพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2564 ถึง 30 มิ.ย. 2565