SCBAM : “ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาอีกครั้ง”

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น แม้ว่ายังคงมาความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ในระลอกที่สอง และจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเกินกว่า 15 ล้านคน พร้อมกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่กลับมาเป็นประเด็นมาก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่กลับมาดีขึ้นอาจจะเพราะข่าวดีจากการพัฒนาที่สามารถทดลองกับมนุษย์ในจำนวนมากขึ้น โดยบริษัทที่คาดว่าจะมีศักยภาพในการผลิตวัคซีนสูงสุดในขณะนี้ คือ Oxford-AstraZeneca, Moderna และ Sinovac ที่กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองวัคซีนเฟส 3 ซึ่งจะเป็นทดลองวัคซีนกับกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยรัฐบาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้จีนปิดสถานกงสุลในเมือง Houston รัฐ Texas ภายในเวลา 3 วัน เพื่อเป็นการปกป้องข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลสำคัญของชาวอเมริกัน ส่วนทางรัฐบาลจีนกล่าวว่าหากสหรัฐฯ ไม่ถอนคำสั่ง ทางรัฐบาลเตรียมพร้อมตอบโจต้อย่างเด็ดขาด การขัดแย้งในครั้งนี้นับเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และจีน พร้อมทั้งเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในระยะสั้น

ยุโรปปรับลดสัดส่วนเงินอุดหนุนของกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจลง จากผลการประชุมผู้นำ EU ทั้ง 27 ประเทศ มีข้อสรุปว่าจะปรับลดสัดส่วนเงินอุดหนุนของกองทุนลงจากเดิมที่มูลค่า 5 แสนล้านยูโรเป็น 3.9 แสนล้านยูโร ขณะที่สัดส่วนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.5 แสนล้านยูโรเป็น 3.6 แสนล้านยูโร

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. ปรับตัวลดลง โดยดัชนีดังกล่าวปรับตัวลดลงจาก ลดลง -4.9 จุด เป็น 73.2 จุด เนื่องจากการกลับมาระบาดของไวรัส COVID-19 ในระลอกที่ 2นอกจากนี้ความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในอนาคตปรับตัวลดลงถึง -6.1 จุด เป็นระดับ 66.2 จุด เนื่องจากสวัสดิการภาครัฐที่ใกล้จะหมดอายุลงซึ่งถือว่าเป็นแรงกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคในระยะข้างหน้า

ธนาคารกลางจีนยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม โดยการประชุมครั้งที่ผ่านมาในวันที่ 20 ก.ค. 2020 ตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยดอกเบี้ยนโยบายเงินกู้ (Loan prime rate) แบบ 1 ปี และ 5 ปียังคงไว้ที่ระดับ 3.85% และ 4.65% ตามลำกับ ซึ่งในปีนี้ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปถึง 30 bps เพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

จับตาการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการคลังเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ในอาทิตย์หน้าสภาจะกลับมาเปิดทำการโดยคาดวงเงินครั้งนี้จะอยู่ที่มูลค่าราว 1-1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสภาน่าจะรีบผ่านมาตรการภายในต้นเดือน ส.ค. ก่อนที่จะปิดทำการอีกครั้ง พร้อมจับตาว่าสภาจะต่ออายุโครงการ PUC ที่ให้สวัสดิการว่างงานเพิ่มเติม 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อสัปดาห์หรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน

“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ เอเชียนอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ฟันด์ (SCBAEM)

“เพิ่มน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (SCBEMBOND)

“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารหนี้ US Short Duration High Income (SCBUSHYA)

“ขายทำกำไร” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTG)

“ขายทำกำไร” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL)

“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)