Fund Manager

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ออกมาสูงกว่าคาดและทำระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี สัปดาห์นี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC Meeting) ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยประเด็นสำคัญ นอกจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว ยังมีการเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต (Dot Plot)

การฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ อ่อนแรงลง หลังจากสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด ลดความหวังว่า Fed อาจพิจารณาผ่อนคันเร่งการใช้นโยบายการเงินตึงตัว

ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวนจากความกังวลว่าจะเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เงินเฟ้อสูงเริ่มกระทบต่องบบริษัทจดทะเบียนและความเสี่ยงของการปรับลดประมาณการกำไร อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดเผยรายงานการประชุม 3-4 พ.ค. ช่วยหนุน Sentiment ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง

ตลาดหุ้นโลกยังคงถูกกดันจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิตถดถอย หลังประธาน Fed ออกมาแสดงความพร้อมในการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจบ้างก็ตาม นอกจากนี้ การรายงานงบของกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ชองสหรัฐฯ เริ่มสะท้อนถึงผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

ตลาดหุ้นโลกยังผันผวนสูงต่อเนื่อง หลังการรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาดและยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปี หลังจาก ECB ยุติการซิ้อสินทรัพย์ภายใต้โครงการ APP ในไตรมาส 3 ปีนี้

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% สู่ระดับ 0.75% – 1.00%

ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวนสูง ถึงแม้ว่า Fed ส่งสัญญาณว่า การขึ้นดอกเบี้ย 75 bps ยังไม่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการ ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ โดยรวมออกมาดีกว่าคาด แต่ Guidance หลายบริษัทแสดงถึงความกังวลมากขึ้น ขณะที่ดัชนี PMI ของจีนบ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากนโยบาย Zero Covid แต่อาจกระตุ้นภาครัฐให้เร่งออกนโยบายช่วยเหลือเพิ่มเติม

ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวนสูงจากสถานการณ์ COVID-19 ในจีนเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ในขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง ด้านผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ ออกมาผสมผสานทั้งดีและแย่ ทำให้ Sentiment การลงทุนค่อนข้างอ่อนแรง