Fund Manager

ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงแรง หลังรัยสเซียนำกองกำลังบุกเข้ายูเครน ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวลงแรง ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น

สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน กรณีที่มีการเจรจาทางการทูต โดยหลีกเลี่ยงสงครามและมาตรการคว่ำบาตร มองว่าจะสร้างความผันผวนและกดดันตลาดหุ้นในระยะสั้นกรณีที่มีมาตรการคว่ำบาตร และมีการใช้กำลังทหารตอบโต้กัน มองตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลงจากระดับปัจจุบัน โดยมี Drawdown อยู่ระหว่าง -5% ถึง -10%

ตลาดหุ้นโลกค่อนข้างผันผวนจากประเด็นรัสเซีย-ยูเครน โดยทางสหรัฐฯและยุโรปเริ่มมีคําสั่งให้อพยพคนของประเทศตัวเองออกจากยูเครน ในขณะที่รัสเซียขับไล่รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ออกจากรัสเซีย

สหรัฐฯ รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 7.5% YoY เร่งตัวขึ้นจาก 7.0% YoY ในเดือนก่อน และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.3% YoY

ตลาดหุ้Œนโลกส่‹วนใหญ่‹กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว‹าที่ตลาดคาด แต‹อาจจะมีปัจจัยกดดันเรื่องเงินเฟ‡อที่สูงขึ้น ที่จะทําให้ Fed ต้องเร่งถอนนโยบายการเงินที่ผ‹อนคลายได้

ตลาดหุ้นเดือนก.พ.ยังคงมีความผันผวนอยู่จากความไม่ชัดเจนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดขนาดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.3% YoY สงผลให้ปัจจุบันจลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งในปีนี้

จากผลการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทันทีในเดือน มี.ค. หลังจากสิ้นสุดกระบวนการทำ QE Tapering และมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 5 ครั้งในปีนี้

ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงแรง หลัง FED ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยส่งสัญญาณว่าจะสิ้นสุด QE taper ในต้นเดทอนมี.ค.และมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด อีกทั้งอาจจะเริ่มต้นลดขนาดงบดุลหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.9% และเป็นปัจจัยกดดันให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง โดยดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดราว -14%