HoonSmart.com>> เซ็นทรัล รีเทลฯ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ IPO ราคา 42 บาท มีกรีนชู เปิดผลงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 1,385 ล้านบาท รวม 9 เดือน/2562 กำไร 4,652 ล้านบาท วางแผนลงทุนเพิ่มขีดความสามารถของกลุ่ม ส่วน CPALL แจ้งกำไรสุทธิ 22,343 ล้านบาท ปี 62 โต 6.75% แจกปันผลหุ้นละ 1.25 บาท ตั้งงบลงทุน 11,500-12,000 ล้านบาทในปี 63 เป้าหมายใหม่ขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขาปี 64 MAKRO กำไรสุทธิ 6,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 303 ล้านบาท หรือ 5% ในปีที่ผ่านมา
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันที่ 20 ก.พ. 2563 ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ 253,302 ล้านบาท ณ ราคา IPOที่ 42 บาท/หุ้น จากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 1 บาท
ก่อนหน้านี้บริษัทกำหนดช่วงราคาเสนอขายสูงสุดที่ 48 บาท ก่อนจะลดลงเหลือ 43 บาทและมาจบลงที่ 42 บาท/หุ้น
CRC ประกอบธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัทอื่น (โฮลดิ้ง) เป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นอันดับสามของประเทศเวียดนามและเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอิตาลี มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 6,031 ล้านบาท มีบล. บัวหลวง และบล. ภัทรเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ในไฟลิ่งระบุว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถและขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้ของกลุ่มบริษัทฯ โดย ณ วันที่ 30 ก.ย.2562 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายจ่ายฝ่ายทุนที่ได้รับอนุมัติสำหรับเดือนต.ค.-ธ.ค.2562 ประมาณ 9,128 ล้านบาท และในปี 2563 อีกประมาณ 18,437 ล้านบาท
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า CRC ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่จากความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO
ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดของตลาดหลักทรัพย์ฯและยังเป็นหุ้น IPOในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าเสนอขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีต่อศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของผู้นำค้าปลีกไทยในระดับโลก
ส่วนเงินที่ระดมทุนได้นำไปใช้ในการขยายกิจการรวมทั้งปรับปรุงสาขาต่าง ๆ ของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมกับการเป็นหุ้นพื้นฐานดีเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัดในระดับโลกอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ บริษัท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%
ด้านผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 /2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,385.12 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท ลดลง 71.01 ล้านบาท หรือ 4.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,456.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน/2562 กำไรสุทธิ 4,652.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.99 บาท ลดลงประมาณ 48% จากงวดปีก่อนกำไรสุทธิ 9,028.52 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้กำไรงวด 9 เดือน/2562 ลดลง แม้ว่ามีรายได้รวม 159,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,297 ล้านบาท คิดเป็น 4.1% ก็ตาม เนื่องจากอัตรากำไรขั้นลดลงเหลือ 29.1% เทียบกับ 29.5% เกิดจากรายได้จากส่วนฟู้ดและส่วนงานฮาร์ดไลน์ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าส่วนงานแฟชั่น
บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL)รายงานว่า ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 22,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,414 ล้านบาท เติบโต 6.75% จากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 20,929 ล้านบาท
คณะกรรมการ CPALL มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 1.25 บาท รวมเป็นเงิน 11,229 ล้านบาท คิดเป็น 56% ของกำไรสุทธิ ให้กับผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 7 พ.ค. และจ่ายเงินวันที่ 22 พ.ค.2563 ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผล 1.75% เทียบกับราคาหุ้นที่ระดับ 71.50 บาท ณ วันที่ 19 ก.พ. 2563
สาเหตุที่ทำให้ CPALL มีกำไรเพิ่มขึ้นมาจากรายได้รวมเติบโต 8.3% เป็น 571,110 ล้านบาท จากการขายสินค้าและบริการจำนวน 550,901 ล้านบาท เติบโต 8.4% จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อและศูนย์จำหน่ายสินค้าสยามแม็คโคร ขณะที่มีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 124,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 22.75 เพิ่มขึ้นจาก 22.3% ในปี 2561 ทั้งนี้ในปี 2562 มีสาขาเพิ่มขึ้น 724 สาขา ทำให้สิ้นปีมีทั้งสิ้น 11,712 สาขา
แผนงานในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาอีก 700 สาขา กำหนดเป้าหมายใหม่จะขยายสาขาให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 2564 ทำให้รายได้จากการขายพร้อมอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยว่า ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 6,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 303 ล้านบาท เติบโต 5.10% จากที่มีกำไรสุทธิ 5,942ล้านบาทในปี 2561 มาจากรายได้รวมเติบโต 9.2% เป็น 210627 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 10.3% ทั้งนี้ ในปี 2562 บริษัทมีการขยายสาขาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 5 สาขาเป็น 134 สาขา และต่างประเทศอีก 3 สาขาเป็น 7 สาขา
อ่านประกอบ
