HoonSmart.com>> “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” ปี 62 กำไรสุทธิ 1.17 หมื่นล้านบาท ร่วงกว่า 71% จากปีก่อน รายได้รวม 4 แสนล้านบาท ลดลง 21% ราคาผลิตภัณฑ์และปริมาณขายลด ผลพวงเศรษฐกิจโลกชะลอ สงครามการค้า บาทแข็ง รวมทั้งปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตหลักในธุรกิจอะโรเมติกส์และโรงกลั่นน้ำมัน
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 กำไรสุทธิ 11,682.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.59 บาท ลดลง 71% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 40,069.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.89 บาท
บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 409,688 ล้านบาท ลดลง 21% จากปีก่อนหน้าและกำไรสุทธิลดลง 71% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากระดับราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยปรับตัวลดลงและปริมาณการขายลดลง โดยในส่วนของราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังมีผลกระทบต่อเนื่องตลอดปี
ขณะที่ปริมาณการขายลดลง เนื่องจากปิดซ่อมบำรุงตามแผนของหน่วยผลิตหลักในธุรกิจอะโรเมติกส์ในไตรมาส 2 และธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันในไตรมาส 4 ประกอบกับค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการจากการดำเนินการหลักปรับตัวลดลง
นอกจากนี้บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่บริษัทรับรู้จำนวน 4,570 ล้านบาทและเมื่อรวมผลกระทบอื่นจากผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและกลับรายการมูลค่าทางบัญชีของสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับรวม 114 ล้านบาท กำไรจาก Commodity Hedging 1,248 ล้านบาท กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,007 ล้านบาทและบันทึกค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานเพิ่มเติม 784 ล้านบาท (สุทธิภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี)
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2562 มีรายได้จากการขายรวม 85,003 ล้านบาท ลดลง 19% จากไตรมาส 3/2562 และลดลง 34% จากไตรมาส 4/2561 โดยสาเหตุหลักเกิดจากปริมาณการขายลดลง ซึ่งเป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่นเป็นเวลา 52 วัน ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 374 ล้านบาท ลดลง 86% จากไตรมาส 3/2562 และลดลง 91% จากไตรมาส 4/2561
ด้านธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นอยู่ที่ 4.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของส่วนต่างของน้ำมันเตากำมะถันต่ำกับน้ำมันดิบดูไบ ซึ่งบริษัทได้รับประโยชน์ดังกล่าวเนื่องจากบริษัทได้ปรับคุณสมบัติน้ำมันเตาให้เป็นชนิดกำมะถันเพื่อรองรับความต้องการของตลาด อย่างไรก็ดีปริมาณการขายของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลงเนื่องจากปิดซ่อมบำรุงตามแผน ส่งผลให้กำไรจากดำเนินงานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันลดลง
ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์มีกำไรจากการดำเนินงานลดลงจากไตรมาสก่อนและไตรมาส 4/2561 มีปัจจัยหลักจากส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับราคาคอนเดนเสทปรับตัวลดลง เนื่องจากผลกระทบจากอุปทานใหม่ๆ ในตลาด ขณะที่อุปสงค์อยู่ในระดับเดิม สำหรับธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีผลประกอบการในทิศทางเดียวกันกับธุรกิจอะโรเมติกส์ เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกโพลีเอทิลนีน (PE) เฉลี่ยปรับลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเฉพาะส่วนบริษัทลดลงเล็กน้อย
ปี 2562 ธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นลดลงจากปีก่อน จากการปรับตัวลดลงของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับราคาน้ำดิบดูไบจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งผลจากความไม่แน่นอนเศรษฐกิจโลก รวมทั้งปิดซ่อมบำรุงตามแผน ทำให้กำลังผลิตลดลงจาก 102% เหลือ 87% ในปีนี้ ส่งผลกำไรจากการดำเนินงานลดลง
ส่วนธุรกิจอะโรเมติกส์ผลประกอบการลดลง เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบลดลง ทั้งส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนกับราคาคอนเดนเสทและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนกับราคาคอนเดนเสท ขณะที่กำลังผลิตลดลงจาก 93% ในปี 2561 เป็น 88% ในปี 2562 เนื่องจากหยุดซ่อมบำรุงตามแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงอะโรเมติกส์หน่วยที่ 1 ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.เป็นเวลา 49 วัน สำหรับธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีปริมาณการขายปรับเพิ่มสูงขึ้น จากการเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของโรง LLDPE แห่งที่ 2 เต็มปีและกลุ่มผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์ที่ยอดขายเพิ่มขึ้น แต่จากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องส่งผลให้ธุรกิจมีกำไรลดลง