HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย ปลื้มกระแสตอบรับกองทุน “เคแทม เอเชียน ฟิกซ์ อินคัม 30M2 (KTAF30M2)” เปิดขายวันแรกนักลงทุนซื้อลงทุนยอดกว่า 1,000 ล้านบาท ปิดการเสนอขายได้ก่อนกำหนด เตรียมคลอดกองใหม่เสิร์ฟนักลงทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเคแทม เอเชียน ฟิกซ์ อินคัม 30M2 (KTAF30M2) ซึ่งเปิดขายครั้งแรกวันที่ 12-18 ก.พ.2563 ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน สามารถระดมทุนได้สูงถึงกว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้กองทุนสามารถปิดการเสนอขายได้ก่อนระยะเวลากำหนด ซึ่งคาดว่ามาจากนักลงทุนส่วนใหญ่ในขณะนี้กำลังมองหาทางเลือกการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากภาวะตลาดที่ผันผวน และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นขาลง รวมถึงความกังวลต่อสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า
“กองทุน KTAF30M2 สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ได้ดี ด้วยอายุโครงการประมาณ 2 ปี 6 เดือน และเป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนหลักต่างประเทศ (Feeder Fund) คือ กองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – III (Class C (USD) – MD1) เพียงกองเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม รวมถึงกองทุนมีแผนการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราที่บริษัทจัดการเห็นสมควรอีกด้วย”นางชวินดา กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – III (Class C (USD) – MD1) บริหารและจัดการโดย Invesco Hong Kong Limited (Management Company) โดยกองทุนจะเน้นสร้างกระแสรายได้ตลอดช่วงระยะเวลาลงทุน และคืนเงินต้นเมื่อครบอายุกองทุน (กองทุนไม่ได้รับประกันหรือคุ้มครองเงินต้น)
กองทุนจะเน้นกลยุทธ์ Buy and Hold ผ่านการลงทุนในตราสารหนี้ที่อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน และมีการจัดการความเสี่ยงแบบเชิงรุก รวมถึงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อในระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ที่มีช่วงอายุ 2.5 ปีที่นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาเสนอขาย (Initial Offer Period) จนถึงวันครบอายุกองทุน เป็นหลัก
สำหรับประมาณการสัดส่วนการลงทุนของกองทุนหลัก จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในกลุ่มประเทศเอเชียอย่างน้อย 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อันได้แก่ จีน 52.4% สหรัฐอเมริกา 12.7% UAE 7% อินเดีย 5.5% แม็กซิโก 4% และอื่นๆ อีก 18.4% แยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม จะประกอบไปด้วย Financial 37.7% Real Estate 16% Energy 11.9% Basic materials 9.9% และ Consumer and Cyclical 8.4% (ที่มาของข้อมูลจาก Bloomberg & Invesco ณ วันที่ 6 มกราคม 2563) โดยสัดส่วนการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน สำหรับสัดส่วนการลงทุนดังกล่าว