HoonSmart.com>> โบรกฯ มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ส่อหลุดแนวรับ 1,500 จุด หลังดาวโจนส์ร่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่น เอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลง ด้านหุ้นจีนดิ่งแรงหลังกลับมาเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวตรุษจีน
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่า SET Index จะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาคและมีโอกาสหลุดระดับ 1,500 จุดในระยะสั้น โดยปัจจัยกดดันยังมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในช่วง 1Q20 เป็นอย่างน้อย ขณะที่ภาพเศรษฐกิจของไทยยังค่อนข้างเปราะบางนอกเหนือจากโรคระบาด ยังเจอปัญหาภัยแล้งซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
ขณะที่ผลประกอบการ 4Q19 ของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมคาดออกมาไม่ค่อยสดใสนัก อย่างไรก็ตามดัชนีปรับตัวลงมาราว 100 จุดในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาซึ่งตอบรับประเด็นลบ ทำให้คาดว่า Downside จะเริ่มจำกัดแถวระดับ 1480-1,500 จุด จึงมองเป็นจังหวะเข้าซื้อเก็งกำไรคาดหวังการรีบาวด์ระยะสั้นหลังทำกำไรบางส่วนไปแล้วตั้งแต่บริเวณ 1,600 จุด ขณะที่พอร์ตหลักยังเน้นถือหุ้นพื้นฐานที่มีธุรกิจ Recurring Defensive และปันผลสูง
สำหรับกลยุทธ์ ยังเน้นถือหุ้นพื้นฐานที่มีธุรกิจ Recurring Defensive และปันผลสูง , เก็งกำไรลุ้นรีบาวด์ระยะสั้นที่ระดับ 1,480-1,500 จุด
หุ้นเด่นเดือน ก.พ. แนะนำ CHG, INTUCH, KTC, PLANB, SAPPE
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองแนวโน้ม SET INDEX วันนี้มีโอกาสพักฐานลงไปแกว่งตัวบริเวณ 1,500 จุด บวกลบ เนื่องจาก Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างเป็นลบ ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับปรับฐานลงแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มีการเร่งให้เกิดการโยกย้ายกระแสเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย
ด้านบล.กรุงศรีอยุธยา มีมุมมองเป็นลบคาด SET Index ปรับตัวลงทดสอบ 1,500 – 1,505 จุด ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจหดตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กระจายไปราว 20 ประเทศ และยอดผู้เสียชีวิตรวมถึงผู้ติดเชื้อไวรัสยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนยังคงอยู่ในภาวะ Risk off ซึ่งสะท้อนได้จาก US Bond Yield อายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำกว่าอายุ 3 เดือน เกิด Inverted yield curve ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเศรษฐกิจถดถอยในช่วงถัดไป , VIX index พุ่งขึ้นสู่ 18.8 จุดและราคาทองคำปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความกังวล Demand การใช้น้ำมันดิบและกดให้ราคาน้ำมันทรุดตัวลงสู่บริเวณ 51 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อีกทั้งกระแส Fund flow ต่างชาติที่ยอดขายสุทธิต่อเนื่อง 7 วันราว 1.3 หมื่นล้านบาท จะเป็นแรงกดดันต่อดัชนีด้วยเช่นกัน
พร้อมกันนี้ 5 ก.พ. ติดตามการประชุมกนง.คาดหวังการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
อ่านข่าว