HoonSmart.com>> โบรกฯ มองคณะอนุญาโตฯ สั่ง ADVANC จ่ายทีโอทีกรณีพิพาทพรีเพด โรมมิ่ง คดียังไม่สิ้นสุด กระทบราคาหุ้นระยะสั้น ประเมินกรณีเลวร้ายต้องจ่ายเงิน “บล.เคทีบี” ชี้กระทบราคาหุ้น 18 บาท จากเป้า 225 บาท ด้านบล.แลนด์ แอนด์เฮ้าส์ประเมินราคาหด 17.20 บาท จากเป้า 260 บาท แนะรอจังหวะซื้อหากหลุด 200 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ADVANC (แอดวานซ์ อินโฟร เซอร์วิส) ปรับตัวลงแรงตั้งแต่เปิดตลาดร่วง 10 บาท หรือกว่า 4.67% ลงมาอยู่ที่ 204 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดของเช้านี้ ก่อนมีแรงซื้อกลับดันราคาขึ้นไปแตะสูงสุด 208 บาท และ ณ เวลา 10.39 บาท อยู่ที่ 206 บาท ลดลง 8 บาท หรือ -3.74% มูลค่าการซื้อขาย 1,449.33 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) มองกรณีคณะอนุญาโตตุลาการ สั่ง ADVANC จ่ายบริษัท ทีโอที ประมาณ 3.11 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย คดีพิพาทพรีเพดและโรมมิ่ง หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย คดีพิพาทพรีเพดและโรมมิ่ง มองเป็นลบเล็กน้อยในแง่ sentiment ต่อราคาหุ้น ADVANC ซึ่งอาจกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น โดยหากคิดค่าปรับจะอยู่ที่ราว 18 บาทต่อหุ้น (อิงจ่ายเต็มจำนวนทันทีพร้อมดอกเบี้ย 15% ต่อปี)
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดจะไม่ fully price in ประเด็นดังกล่าวเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด และเป็นเพียง noise ที่บริษัทในอุตสาหกรรม ICT ต้องเผชิญ (อิงกรณีอื่นของ ADVANC TRUE DTAC ที่เกิดขึ้นในอดีตและคดียังไม่สิ้นสุดพบว่าตลาดตอบสนองเชิงลบเพียงเล็กน้อยในวันที่ประกาศข่าวเท่านั้น)
“เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 225 บาท อิง DCF (WACC 8.7%, TG 2.0%) ระยะยาวการใช้งาน Data ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าจะเป็น Key catalyst ให้กับหุ้น อย่างไรก็ตามระยะสั้นค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มเติมรวมถึง investment cycle รอบใหม่ (5G) และความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงจะเป็นความเสี่ยงกดดันผลประกอบการ”บล.เคทีบี ระบุ
ด้านบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองคดีดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด ต้องรอการตัดสินจากศาลปกครองกลางอีกครั้ง ซึ่งขบวนการยังต้องผ่านขั้นตอนการตัดสินจากศาลปกครองชั้นต้น และชั้นสูงสุดอีกครั้ง
ทั้งนี้กรณีครั้งที่ 6 ที่ทาง ADVANC ขอลดส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการแบบเติมเงินจากเดิม เป็นขั้นบันได 20% ในช่วงต้นถึงกลางอายุสัมปทาน 30% ในช่วงกลางอายุสัมทานถึงสิ้นสุดอายุสัมปทาน เนื่องจาก DTAC ซึ่งเป็นคู่สัมปทานกับ CAT ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ต้องจ่ายค่า access charge ให้ TOT เดือนละ 200 บาทต่อเลขหมายเพื่อให้บริการมือถือในประเทศได้ ขอลดอัตราค่า access charge ของบริการเติมเงินจาก 200 บาท/เดือน เหลือ 18% ของรายได้ เพราะการเก็บค่า access charge บริการเติมเงินที่ 200 บาท/เดือน จะทำให้ผู้ประกอบการขาดทุน การลดค่า access charge บริการเติมเงินให้คู่สัมปทานของ CAT ทำให้ ADVANC เสียเปรียบคู่แข่ง จึงขอลดส่วนแบ่งรายได้จากขั้นบันได เป็นอัตราคงที่ที่ 20%
ขณะกรณีครั้งที่ 7 การหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (roaming) ADVANC มองว่ามีความเป็นธรรม เพราะในกรณีมีรายได้จาก Operator รายอื่นมาใช้โครงข่ายร่วม ทาง ADVANC ก็นำมารวมคำนวณส่วนแบ่งรายได้ ดังนั้น รายได้ Roaming ที่นำมาคำนวณควรเป็นรายได้สุทธิ (ผลต่างระหว่างรายได้และรายจ่ายจากการใช้เครือข่ายร่วม)
ดังนั้นทั้ง 2 กรณี ADVANC เห็นว่าทางบริษัทได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง จึงมิได้ตั้งสำรองรายจ่ายทั้ง 2 กรณีเลย ขณะที่ขบวนการชั้นศาลปกครองยังต้องเวลาพิจารณาอีกนานจึงจะสรุปผล
ทังนี้กรณีเลวร้ายสุด หาก ADVANC แพ้คดี จะต้องชำระผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวน 31,076 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีกราว 2 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท กระทบต่อหุ้น ราว 17.20 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมายปี 260 บาท มีโอกาสปรับลดลง หลังประมูลคลื่น 5G ในเดือนก.พ.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภาระการลงทุน 5G ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จึงแนะนำให้รอ ซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หลุด 200 บาท รับแรงขาย Panic sell ในวันนี้
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองเป็น Sentiment ลบต่อหุ้น ADVANC ในระยะสั้น แม้ว่ายังไม่รู้ผลคดีว่าศาลปกครองชั้นต้นและสูงสุด (มี 2 ศาล) จะตัดสินอย่างไร ทั้งนี้ในกรณีแย่ที่สุด คือ ADVANC แพ้คดีและต้องจ่ายค่าปรับดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยก็จะคิดเป็นประมาณ 19 บาท/หุ้น ADVANC ในเชิงกลยุทธ์ เน้นซื้ออ่อนตัว แนวรับ 205-200, 195 บาท
อ่านประกอบ
ADVANC เผยอนุญาโตฯสั่งจ่ายทีโอที 3.1 หมื่นลบ.ข้อพิพาทพรีเพด-โรมมิ่ง
หุ้น 30 ม.ค.เช้าร่วง 7 จุด ทิ้ง ADVANC-INTUCH กังวลจ่ายทีโอทีกว่า 3 หมื่นลบ.