TMB ระดม 3.8 หมื่นลบ.ซื้อธ.ธนชาต TCAP คาดเพิ่มทุนราคา 2.10 บาท/หุ้น

HoonSmart.com>>ผู้ถือหุ้นสนับสนุนแบงก์ทหารไทย ระดมทุนสำเร็จได้ 90% ของเป้าหมาย 4.25 หมื่นล้านบาท ขายหุ้นกู้นับเป็นกองทุนที่ 1 เตรียมไว้แล้ว มีเงินเพียงพอชำระค่าหุ้น-โอนกิจการธนาคารธนชาตจบ 3 ธ.ค. นี้ รับรู้ผลดำเนินงานในงบการเงินรวมภายในปี 2562 ส่วนทุนธนชาตซื้อหุ้นเพิ่มทุน TMB ราคา 1.1 เท่าของมูลค่าหุ้นทางบัญชี  ประมาณ 2.10 บาท คาดใช้เวลาดำเนินการควบรวมเสร็จ 24 เดือน  

วันที่ 28 พ.ย.2562 ธนาคารทหารไทย (TMB) ได้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 โดยมีนาย ประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการธนาคารเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติทุกวาระ อาทิ การเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของธนาคารธนชาตและรับโอนกิจการมายังธนาคาร และอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ เรื่องวัตถุประสงค์ของธนาคาร เช่น ให้ทำธุรกิจ ให้เช่าซื้อ ให้เช่าแบบลีสซิ่ง

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ตามแผนการควบรวมกิจการระหว่าง TMB และธนาคารธนชาต ซึ่งจะชำระค่าหุ้น พร้อมรับโอนกิจการธนาคารธนชาต ในวันที่ 3 ธ.ค.62 และภายในวันเดียวกัน บริษัททุนธนชาต (TCAP) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นธนาคารธนชาตก็จะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาในธนาคารทหารไทย ในราคา 1 .1 เท่าของมูลค่าหุ้นทางบัญชี ทั้งนี้ยังไม่ทราบราคาหุ้น ทำให้ธนาคารธนชาตเป็นบริษัทย่อยและนำผลประกอบการเข้ามาในงบการเงินรวมของธนาคารทหารไทยได้ทันทีในปีนี้ นอกจากนี้ ไอเอ็นจีได้ชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนของ TMB แล้วด้วย

ส่วนกระบวนการควบรวมระหว่างธนาคารธนชาตและธนาคารทหารไทย คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายใน 24 เดือน เพื่อให้กลายเป็นธนาคารเดียวได้ในช่วงกลางปี 2564

สำหรับเงินที่จะใช้ชำระค่าซื้อหุ้นธนาคารธนชาต ส่วนหนึ่งจะมาจากการใช้สิทธิตามใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ซึ่งเปิดให้ใช้สิทธิ TSR ตั้งแต่วันที่ 8-22 พ.ย.2562 สามารถระดมทุนได้ 38,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% ของมูลค่าหุ้น TSR ที่ออกจำหน่าย (รวมกระทรวงการคลังที่ใช้สิทธิแล้ว)  ถือว่าเกินความคาดหมาย แม้ว่าการระดมทุนครั้งนี้จะไม่ถึงเป้าหมาย 42,500 ล้านบาทก็ตาม  แต่เพียงพอที่จะใช้ซื้อหุ้นธนาคารธนชาต เพราะได้มีการออกตราสารหนี้ที่นับเป็นกองทุนชั้นที่ 1 เตรียมไว้แล้ว

ทั้งนี้ ราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุนธนาคารทหารไทยของกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ รวมถึงบริษัททุนธนชาตและ Scotia Netherlands Holding B.V. (BNS) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารธนชาต คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.1 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นกรอบประมาณการเดิม เพื่อระดมทุนในส่วนนี้จำนวน 64,000 ล้านบาท   โดยไม่ได้รับเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ  0.03 บาท เพราะให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิมที่มีชื่อในทะเบียนวันที่   2 ธ.ค.2562 คือจะต้องถือหุ้นในวันที่ 29 พ.ย.นี้

ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้แสดงความเป็นห่วงว่า ธนาคารทหรไทยหลังควบรวมกับธนชาตแล้วจะสามารถรับมือกับเทคโนโลยีดิสรัปชั่นได้หรือไม่ นายปิติกล่าวว่า คงไม่สามารถหยุดเทคโนโลยีดิสรัปชั่นได้ แต่ธนาคารจะอยู่ได้ต้องดิสรัปชั่นก่อน เหมือนที่ธนาคารทหารไทยทำและสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้

นอกจากนี้การควบรวมธนาคารจะทำให้พนักงานว่างงานหรือไม่ ได้มีการชี้แจงในที่ประชุมว่า โดยปกติธุรกิจธนาคารจะมีพนักงานเกษียณอายุปีละ 15% และการดำเนินการควบรวมแล้วเสร็จใช้เวลา 2 ปีก็จะมีคนเกษียณอายุ 30 % ทั้งนี้ หลังรวมผู้บริหารและพนักงานทุกคนแล้ว ธนาคารทหารไทยจะมีพนักงานทั้งหมด 20,000 คน

ธนาคารทหารไทย คาดใช้เงิน 130,000 ล้านบาท ในการซื้อกิจการธนาคารธนชาต โดยการเพิ่มทุน 100,000 ล้านบาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ตามสิทธิ TSR เพื่อระดมทุน 42,500 ล้านบาท เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลภายนอก 6,400 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารธนชาตทุกราย   57,600 ล้านบาท   นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการออกตราสารหนี้ เพิ่มเงินกองทุนชั้นที่ 1 ขายผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศ จำนวน 9,600-16,000 ล้านบาท และเสนอขายตราสารด้อยสิทธิ นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ 15,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารมีแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากตราสารหนี้อีก ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท