MACO กำไร Q3 หดเหลือ 42 ลบ. รายได้โต 54% ธุรกิจตปท.สดใส

HoonSmart.com>> “มาสเตอร์ แอด” ไตรมาส 3/62 กำไรหด 40% เหลือ 42 ล้านบาท หลังควบรวมงบการเงินธุรกิจโฆษณาต่างประเทศ ต้นทุนบริการ ค่าใช้การขายและบริหารเพิ่มขึ้น ด้านรายได้ยังเติบโต 54% งวด 9 เดือนกำไร 122 ล้านบาท

บริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2562 จำนวน 41.95 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 ลดลง 40% จากงวดปีก่อนกำไรสุทธิ 69.91 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.019 บาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น จากการควบรวมงบการเงินธุรกิจสื่อโฆษณาในต่างประเทศที่บริหารโดย VGI Global Media (Malaysia) Sdn. Bhd. (VGM)

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 กำไรสุทธิ 121.86 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.029 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 185.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.053 บาท

นายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) ผู้ครอบครองเครือข่ายสื่อโฆษณากลางแจ้งมากที่สุดในเมืองไทย เผยว่า ไตรมาส 3/2562 บริษัทมีรายได้จากผลการดำเนินงาน แบ่งเป็นรายได้จากสื่อโฆษณาในประเทศ 258 ล้านบาท จากการควบรวมงบการเงินครั้งแรกของธุรกิจให้บริการโฆษณาในต่างประเทศที่บริหารโดย VGI Global media (Malaysia) Sdn Bhd. (VGM) สร้างรายได้ 157 ล้านบาท และจากการรวมงบการเงินเต็มไตรมาสกับ ทรานส์ แอด กรุ๊ป ที่สร้างรายได้จากการให้บริการด้านระบบครบวงจรได้ถึง 333 ล้าน

นอกจากนี้ผลดำเนินงานในต่างประเทศที่มีพัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดมาเลเซียที่เริ่มมีกำไรสุทธิถึงจุดคุ้มทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2559 รวมถึงการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการสื่อโฆษณาประเทศอินโดนีเซียที่เริ่มสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานให้บริษัทด้วยเช่นกัน

“ก้าวต่อไปของ MACO คือมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์สื่อภายในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แพลน บี มีเดีย (PlanB) ที่รับประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้กับ MACO ทำให้บริษัทสามารถรับรองผลการดำเนินงานให้มั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการเข้าลงทุนใน บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด และการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ แพลน บี จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สื่อกลางแจ้งทั้งหมดของบริษัทฯ พร้อมดันให้บริษัทฯ มุ่งเน้นไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มตัว”นายพุน กล่าว

สำหรับโครงสร้างใหม่นี้ ธุรกิจในประเทศจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงสุด ซึ่งนำไปสู่โอกาสที่จะพัฒนาอัตรากำไรของบริษัทฯ ให้เพิ่มมากขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีส่วนสำคัญในพอร์ตการขาย อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์นี้ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 17 ธ.ค.2562 นี้