CNT คาดไตรมาสสองมีข่าวดี หลังเสนอราคาต่ำสุดงานประมูลก่อสร้างอาคารในสนามบิน 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท หวังครึ่งปีหลังภาครัฐเร่งประมูลงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น ดันรายได้ปีนี้เข้าเป้า 8 พันล้านบาท
นายสุรศักดิ์ โอสถานุเคราะห์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (CNT) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากงานก่อสร้าง 1,800-2,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปีก่อนที่มีรายได้ 1,962 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ที่มีรายได้ 1,762 ล้านบาท และทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีรายได้ 7,944 ล้านบาท
“รายได้ปีนี้ที่ไม่ค่อยโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากงานก่อสร้างภาครัฐที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจออกมาน้อยมาก โดยเฉพาะงานก่อสร้างถนนที่เงียบๆไป ส่วนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไตรมาสแรก 155 ล้านบาท ในโครงการก่อสร้างโรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์และพลาซ่านั้น บริษัทได้ฟ้องร้องบริษัท เจ้าพระยา รีซอร์ท แล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคณะอนุญาโตตุลาการ น่าจะรู้ผลใน 2-3 ปีจากนี้ และปีนี้ยืนยันว่าบริษัทจะมีการตั้งสำรองใดๆเพิ่มอีก”นายสุรศักดิ์กล่าว
นายสุรศักดิ์ ยังกล่าวว่า แม้ว่าไตรมาสแรกบริษัทจะมีผลขาดทุน 61 ล้านบาทท จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ แต่กำไรขั้นต้นได้เพิ่มเป็น 192 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น (GMP) เพิ่มขึ้นแตะ 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 87 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 6.2% ซึ่งสะท้อนได้ว่าบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าน้ำมัน ค่าแรง และวัสดุที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและลานจอดรถ ที่สนามบินขอนแก่นและกระบี่ ของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) มูลค่าก่อสร้างรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โดย CNT เป็นผู้เสนอราคาประมูลต่ำสุด และทย.ได้เรียกทางบริษัทเข้าไปเจรจาต่อรองราคาแล้ว คาดว่าจะมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ และหากได้งานนี้จะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ CNT ได้งานก่อสร้างในสนามบิน
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมา CNT ประมูลงานก่อสร้างของเอกชนได้ 16 โครงการ มูลค่า 1,100 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.2561 บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 7,214 ล้านบาท และหากไม่นับรวมงานประมูลของภาครัฐแล้ว ปีนี้บรษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานก่อสร้างของเอกชนประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะชนะการประมูลกี่โครงการ เนื่องจากต้องยอมรับการการแข่งขันในภาคเอกชนมีสูงมาก
“เราคาดหวังว่าหากมีงานภาครัฐออกมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จะทำให้การแข่งขันประมูลงานภาคเอกชนลดความรุนแรงขึ้น จากปัจจุบันที่ 1 โครงการจะมีผู้เข้าแข่งประมูล 10 เจ้า หากงานรัฐออกมาเร็ว น่าจะเหลือ 1 โครงการต่อผู้เข้าประมูล 3-4 เจ้า โอกาสของเราก็มีมาก ส่วนโครงการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ปีนี้เราไม่ได้คาดหวัง แต่ปีหน้าคาดว่าการประมูลงานภาครัฐและเอกชนจะมีมากขึ้นแน่นอน”นายสุรศักดิ์กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า แม้ว่าปีนี้บริษัทจะตั้งเป้ารายได้ 8,000 ล้านบาท แต่ CNT พร้อมเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างภาครัฐและเอกชนทุกโครงการที่บริษัทมีศักยภาพและถนัด โดยบริษัทมีศักยภาพทั้งเครื่องจักร วัสดุก่อสร้าง วิศวกรและคนงาน ที่รองรับงานก่อสร้างคิดเป็นรายได้สูงถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อปี