HoonSmart.com>>อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันที่ 24 ต.ค. 2562 สวยงาม เปิดที่ 4.08 บาท ขึ้นไปสูงสุดถึง 4.58 บาท ก่อนปิดที่ระดับ 4.36 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท หรือ 32.12% จากราคาเสนอขายหุ้นละ 3.30 บาท เป็นหุ้นนวัตกรรมอาหาร ซึ่งคนไทยเกือบทุกคนเป็นลูกค้า(ทางอ้อม)ของบริษัท ผ่านการรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัว ซึ่งไม่ว่าพฤติกรรมการบริโภคจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร บริษัทยังมีโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอในระยะยาว
“สมชาย รัตนภูมิภิญโญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RBF มีประสบการณ์อยู่ในธุรกิจผลิตและจำหน่ายส่วนประกอบอาหาร (Food Ingredients) มากกว่า 34 ปี RBF เป็นบริษัทของคนไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดท็อปไฟว์ในธุรกิจนี้ ประเมินมูลค่าตลาดในประเทศไทยประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
บริษัทมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 15% และในประเทศ 85% ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของประเทศ อาทิ บริษัทที่ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังทุกแห่ง โดยรวมแล้วซื้อสินค้าจากบริษัทประมาณ 35% ของรายได้รวม รวมถึงผู้ผลิตสินค้าอีกหลายประเภท ที่ต้องมาซื้อวัตถุแต่งกลิ่น แต่งรส รวมถึงสีผสมอาหาร เพื่อทำให้สินค้าน่าสนใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว อาหารสัตว์ เครื่องสำอาง น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เช่น แชมพูสระผม นอกจากนี้ค้าปลีกขนาดใหญ่ ก็สั่งซื้อในลักษณะ OEM จ้างบริษัทผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า เช่น แม็คโคร บิ๊กซี
“เราผลิตทั้งกลิ่นผลไม้ กลิ่นเนื้อสัตว์ กลิ่นผักและสมุนไพรต่างๆ ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศสั่งซื้อจากเรา มีออเดอร์ในลักษณะ Made to Order เช่น ผลิตขนมขบเคี้ยวกลิ่นสตอเบอรี่ ไอศกรีมกลิ่นทุเรียน กลิ่นมะม่วง และน้ำผลไม้กล่อง ตอนนี้ร้านอาหารญี่ปุ่น ได้รับความนิยมมากขึ้น จัดบริการบุฟเฟ่ต์ ของประเภททอด ก็ต้องมาซื้อแป้งทอดกรอบและเกล็ดขนมปังที่ผ่านการพัฒนาของเรา ทำให้กรอบนานทั้งวัน เชื่อว่าไม่ว่าพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร การพัฒนาสินค้าของเราจะสามารถตอบสนองความต้องการได้เสมอ”
บริษัทมีทีมนักวิจัยประมาณ 60 คน มีชาวต่างชาติมาร่วมงานด้วย สามารถผลิตวัตถุที่ลูกค้าต้องการออกมาได้เร็ว นอกจากนี้ยังวางแผนการใช้เงินที่ระดมทุนจากประชาชนส่วนหนึ่ง เปิดบริษัทตัวแทนและห้องทดลอง เพื่อวิจัยและพัฒนาในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางซื้อขายสินค้าประเภทวัตถุแต่งกลิ่น รวมถึงการสร้างโรงงานผลิต และจำหน่ายเกล็ดขนมปัง และแป้งประกอบอาหารในประเทศอินโดนีเซีย พร้อมปรับปรุง และซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตแบบอัตโนมัติ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวถึงเป้าหมายในการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อต้องการยกระดับบริษัท RBF ขึ้นสู่ภูมิภาค หลังจากเข้าถึงแหล่งระดมทุนที่หลากหลาย เสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง รองรับการขยายธุรกิจ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจด้าน Food Ingredients อย่างครบวงจร
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ซื้อโรงแรม 2 แห่งในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงิน ปัจจุบันสร้างรายได้เพียง 3-4% แต่ยังมีผลการดำเนินงานขาดทุน ส่วนผลงานโดยรวมที่ผ่านมา ปี 2561 มีรายได้รวม 2,749 ล้านบาท กำไรสุทธิ 321 ล้านบาท ในปี 2562 รวม 6 เดือนกำไรสุทธิ 147 ล้านบาท ลดลง 13.52% จากที่มีกำไรสุทธิ 170 ล้านบาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
“สมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร “ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า RBF มีจุดแข็งหลายด้านโดยเฉพาะงานวิจัยและพัฒนา ( R&D ) บริษัทมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทดแทนกันได้ยาก นอกจากนี้ ยังเป็นธุรกิจด้านนวัตกรรมอาหารรายเดียวที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสูง โดยมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 10-12% และผู้บริหารยังมีประสบการณ์ในธุรกิจ Food Ingredients มากกว่า 34 ปี
ทางด้านบล.ฟินันเซียไซรัส วิเคราะห์หุ้นบริษัท RBF ผู้รังสรรค์ส่วนผสมของความอร่อย โดยให้ราคาเป้าหมายในปี 2563 ที่ 4.60 บาท ชอบหุ้น BRF ในความสม่ำเสมอของรายได้ที่เติบโตตามอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และบริษัทให้ความสำคัญกับ R&D ที่ช่วยสร้างความแตกต่างในสินค้า และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและผู้บริโภค ทำให้ยากที่ลูกค้าจะเปลี่ยนซัพพลาย
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานในเวียดนามและอินโดนีเซีย จากเดิมที่มีแต่สำนักงานขาย คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป และประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-2563 เติบโต 7.6% และ 24% ตามลำดับ คาดอัตราการเติบโตของกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยที่ 18.4%
บริษัทเสนอขายหุ้นจำนวน 520 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ราคาหุ้นละ 3.30 บาท ระดมทุนได้ 1,716 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อประมาณ 60% ส่วนที่เหลือเป็นการขายให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 7,762 ราย
RBF แบ่งสินค้าเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มวัตถุแต่งกลิ่น และสีผสมอาหาร ซึ่งรวมถึงวัตถุแต่งกลิ่นที่นำไปเป็นส่วนผสมในน้ำหอมและเครื่องสำอาง (2) กลุ่มแป้งและซอส (3) กลุ่มผลิตภัณฑ์อบแห้ง (4) กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง (5) กลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และ (6) กลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาและจำหน่ายไป ซึ่งเป็นสินค้าประเภทสารแต่งเติมอาหาร เช่น สารกันบูด สารกันรา กรดมะนาว เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ธุรกิจโรงแรม 2 แห่ง คือ โรงแรมไอบิส สไตล์ เชียงใหม่ และโรงแรมโนโวเทล ชุมพร บีช รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ
อ่านข่าว
RBF เทรด 24 ต.ค. คาดพ้นจอง กองทุนบัวหลวง B-LTF ถือหุ้นอันดับ 3
“RBF” ปิดจองซื้อเกลี้ยง เชื่อพื้นฐานแกร่ง จ่อเทรด SET 24 ต.ค.