CIMBT กำไร Q3 โต 68% หนุน 9 เดือนพุ่ง รายได้เพิ่ม-สำรองหนี้ลด

HoonSmart.com>> “ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย” ไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 298 ล้านบาท โต 68% จากงวดปีก่อน หนุน 9 เดือนกำไร 728 ล้านบาท พุ่ง 36% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้จากการดำเนินงาน 1 หมื่นล้านบาท สำรองหนี้สงสัยจะสูญลด 33%

อดิศร เสริมชัยวงศ์

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 298.13 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0086 บาท เพิ่มขึ้น 68.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 177.26 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0059 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 728.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0209 บาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 537.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0177 บาท

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2562 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 190.7 ล้านบาท หรือ 35.5% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปี 2561 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงาน 2.3% และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 32.7% สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 17.4%

รายได้จากการดำเนินงานมีจำนวน 10,386.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.4 ล้านบาท หรือ 2.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปี 2561 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 3.1% เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 97.8 ล้านบาท หรือ 6.8% มาจากการเพิ่มขึ้นของ ค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รายได้อื่นลดลง 103.7 ล้านบาท หรือ 13.4% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของขาดทุนสุทธิจากหนี้สินทางการเงินที่กำหนดให้แสดงด้วยมูลค่ายุติธรรมสุทธิกับกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเมื่อทียบกับงวดเดียวกันปี 2561 เพิ่มขึ้นจำนวน 1,060.8 ล้านบาทหรือ 17.4% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น เนื่องจากการแก้ไขพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ซึ่งกำหนดให้จ่ายค่าชดเชยเพิ่มขึ้นสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุและมีอายุงานมากกว่าหรือเท่ากับ 20 ปีและค่าใช้จ่ายที่เกิดจากกลยุทธ์การขยายงานของธนาคารภายใต้โครงการ Fast Forward เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2562 อยู่ที่ 68.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 อยู่ที่ 59.9%

อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวด 9 เดือนปี 2562 อยู่ที่ 3.32% ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2561 อยู่ที่ 3.77% เป็นผลจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 30 ก.ย.2562 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 240.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2561 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 238.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากสิ้นปี 2561 ซึ่งมีจำนวน 234.3 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 100.9% จาก 97.2% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 11.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 4.6% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2561 อยู่ที่ 4.3% เป็นผลจากลูกหนี้ภาคธุรกิจบางรายและรายย่อย อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 ก.ย.2562 อยู่ที่ 98.0% ลดลงจากสิ้นปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ 107.0% ณ วันที่ 30 ก.ย.2562 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 10.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินจากเงินสำรองขั้นต่ำตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 5.1 พันล้านบาท

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 ก.ย.2562 มีจำนวน 48.3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 18.6% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 13.6%