INSET มั่นใจเทรดวันแรกเหนือจอง ชูพี/อีต่ำ ธุรกิจสดใส-แบ็คล็อกแน่น

HoonSmart.com>> INSET มั่นใจหุ้นลงกระดาน mai วันแรก 8 ต.ค.นี้ ทะยานเหนือจอง ชี้กระแสตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยคึกคัก เหตุตั้งราคาไอพีโอ 2.69 บาท P/E ต่ำ 13.70 เท่า โบรกฯ ให้เป้า 3.10-3.68 บาท ด้านอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเติบโตก้าวกระโดด พร้อมโชว์แบ็คล็อกหนากว่า 2.7 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง 3 ปี พร้อมเดินหน้าลุยประมูลงานใหม่ เน้นเพิ่มสัดส่วน recurring income เป็น 10% หนุนเติบโตมีเสถียรภาพ

นายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ของบริษัท อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า INSET เป็นน้องใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน นอกจากจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งแล้ว การดำเนินธุรกิจในอนาคตมีโอกาสเติบโตสูงตามภาวะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม รวมทั้งการกำหนดราคาไอพีโอในระดับที่เหมาะสม โดยราคาไอพีโอที่ 2.69 บาท มีค่าP/E ที่ระดับ 13.70 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าP/E ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่มีธุรกิจที่ใกล้เคียงกันอยู่ที่ระดับ 16 เท่า

อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับบทวิเคราะห์ที่มีการประเมินราคาที่เหมาะสมกับพื้นฐานประมาณ 3.10-3.68 บาท จะเห็นว่าราคาไอพีโอยังมีส่วนลดในระดับที่น่าสนใจ อีกทั้งในการจัดสรรหุ้นที่ผ่านมา พบว่ามีนักลงทุนสถาบันและรายย่อยแสดงความสนใจเข้าลงทุนเป็นจำนวนมาก แม้จะเป็นหุ้นขนาดเล็กแต่มีความโดดเด่นด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ INSET เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 146 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 26.1%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และหลังจากการเสนอขายหุ้น กลุ่มตระกูลพุกกะณะสุต จะถือหุ้นสัดส่วน 49.21% โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนหลังไอพีโอ จำนวน 280 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 560 ล้านหุ้น

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท เชื่อมั่นว่าหุ้น INSET ที่มีกำหนดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)ในวันที่ 8 ตุลาคม 2562 นี้ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนได้ เนื่องจากเป็นบริษัทฯที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้มอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่มีการขยายตัวที่โดดเด่นมากทุกปี จากการที่ภาครัฐให้การสนับสนุน และการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสื่อสารจากระบบ 4G เป็น 5G รวมทั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการส่งมอบงานได้ตรงตามเวลาที่กำหนด และสามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่ลูกค้าคาดหวังอยู่เสมอ

ทั้งนี้ INSET ถือว่าเป็นผู้ประกอบการโครงสร้างพื้นฐานในด้านโทรคมนาคม ที่มีการดำเนินการแบบครบวงจรเพียงรายเดียวในตลาดหลักทรัพย์ mai และที่ผ่านมาสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ปีละ 10-20% ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) กว่า 2.7 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งประกอบด้วย งานโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินกทม. และงานบำรุงรักษาโครงการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (โซน C) หรือ USO ทั้ง Phase 1 และ 2 เป็นต้น

“แนวโน้มอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในช่วง 4-5 ปี หลังจากนี้ไป เชื่อว่าจะมีจำนวนงานออกมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่ ขณะที่ภาครัฐต้องการจะผลักดันระบบโครงข่าย เพื่อกระจายความเจริญไปทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯได้รับงานต่อเนื่องช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้”

กรรมการผู้จัดการ กล่าวอีกว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกของปี 2562 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 577.69 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46.57 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 8.06% ขณะที่โครงสร้างรายได้หลักมาจากธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 88% ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม 10%งานซ่อมบำรุงและบริการ อื่นๆ 2%

ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้งานซ่อมบำรุงและบริการให้แตะระดับ 10% เนื่องจากจะเป็นส่วนที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอหรือ Recurring income เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมั่นคง

ด้านตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) แจ้งรับหุ้นสามัญบริษัท อินฟราเซท (INSET) จำนวน 560 ล้านหุ้น เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2562

ทั้งนี้ INSET ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคมและธุรกิจซ่อมบำรุงและให้บริการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม เสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 131.40 ล้านหุ้นและเสนอขายกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย (ESOP) จำนวน 14.60 ล้านหุ้น ในราคา 2.69 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 27 ก.ย.-1 ต.ค.2562

อ่านประกอบ

INSET มั่นใจ พร้อมเทรด 8 ต.ค. โชว์กำไรทะยาน 168% ไตรมาส 2/62