ดีบีเอสฯ มองหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ ขึ้น จังหวะขายปรับพอร์ต

HoonSmart.com>> บล.ดีบีเอสฯ มองราคาน้ำมันดิบพุ่งกดดันเศรษฐกิจชะลอตัว อาจเป็นการขึ้นชั่วคราว สหรัฐมีสต็อกน้ำมัน ช่วยอุปทานไม่ตึงตัวมาก ราคาหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมีขึ้น จังหวะขายปรับพอร์ต

บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงในรอบนี้ เป็นปัจจัยที่ต้องระวัง เนื่องจากอาจจะยิ่งกดดันเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวลงไปอีก และการปรับขึ้นอาจเป็นแค่ชั่วคราว เพราะสหรัฐมีสต็อกน้ํามันดิบสูงพอที่จะนําออกมาขายและทําให้อุปทานไม่ตึงตัวมาก และซาอุดิอาระเบียก็เร่งผลิตเพิ่มจากโรงกลั่นในส่วนที่ไม่เสียหาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่าราคาน้ํามันน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติได้ใน 1-2 สัปดาห์หากเป็นเช่นนี้ราคาน้ํามันพุ่งก็อาจเป็นปัจจัยหนุนการเก็งกําไรระยะสั้นเท่านั้น

ในเชิงกลยุทธ์การปรับขึ้นของราคาหุ้นพลังงาน & ปิโตรเคมีเป็นจังหวะขายทํากําไร/หรือขายปรับพอร์ต โดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย

ส่วนหุ้นกลุ่มเดินเรือประจําเส้นทางและสายการบิน แม้ว่าราคาหุ้นจะอ่อนลงแต่ก็ยังไม่น่าสนใจนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาและการแข่งขันสูงทําให้ความสามารถในการทํากําไรของธุรกิจอ่อนแอ

ในด้านภาพรวมตลาด การเกิดเหตุการณ์โจมตีธุรกิจน้ํามันขนาดใหญ่ในซาอุฯ ครั้งนี้ทําให้กังวลว่าจะเกิดการตอบโต้รุนแรงในตะวันออกกลาง และเป็นอีกปัจจัยที่เข้ามากดดันการลงทุนจากที่มีความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าอยู่แล้ว โดยบล.ดีบีเอสฯ มองว่าขณะนี้ Market Risk เพิ่มขึ้น ควรระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภท

สำหรับหุ้นที่ได้และเสียจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ได้แก่

กลุ่มสํารวจและผลิตน้ํามัน ซึ่งมองเป็นบวกต่อกลุ่ม คือ PTTEP, PTT โดยทําให้ราคาขายน้ํามันและก๊าซปรับขึ้น ท้ังนี้ ราคาก๊าซจะขึ้นช้ากว่า โดยมี Lag time ประมาณ 3-6 เดือน

ส่วนกลุ่มโรงกลั่น มองเป็นบวกเล็กๆ หรือ Neutral ที่ทําให้มีกําไรจากสต๊อกในสิ้น 3Q19 (สิ้น 2Q19 ราคา BRENT ปิด 64.74 US$, ปัจจุบันที่ 69.02 US$, +6.6%) แต่ค่าการกลั่นอาจไม่ได้ปรับขึ้นมาก เพราะต้นทุนวัตถุดิบน้ํามันดิบ & ค่าพรีเมียมน้ํามันดิบสูงขึ้น และราคาน้ํามันสําเร็จรูปขยับขึ้นไดชากวาในชวงเศรษฐกิจโลกซบเซา

กลุ่มปิโตรเคมี มองเป็นบวกเล็กๆ หรือ Neutral เนื่องจากคล้ายๆ กับโรงกลั่น โดย PTTGC ดูดีกว่ากลุ่ม เพราะใช้วัตถุดิบเป็น Gas base ซึ่งราคาปรับขึ้นชา ขณะที่ SCC, IRPC, TOP เป็นปิโตรเคมีบน Naphtha base ซึ่งราคาวัตถุดิบปรับขึ้นลงตามราคาน้ํามันดิบ

ส่วนกลุ่มที่เป็นลบ คือ กลุ่มขนส่ง เช่น เดินเรือประจําเส้นทาง (RCL), สายการบิน ที่มีสัดส่วนต้นทุนเชื้อเพลิง 30-40% ของต้นทุนรวม ส่วนเดินเรือเหมาเทกอง (TTA, PSL) กระทบไม่มาก เพราะลูกค้าจ่ายค่าเชื้อเพลิงเอง

ด้าน TASCO กระทบไม่มาก เพราะซื้อวัตถุดิบน้ํามันดิบจากเวเนซูเอลา ที่เป็นสัญญาซื้อล่วงหน้า

อ่านประกอบ

PTTEP-PTT เด่นสุด คาดน้ำมันแตะ 62 ดอลล์ เลี่ยงแบงก์-วัสดุก่อสร้าง-โลจิสติกส์