VGI วางเป้าภายใน 3 ปีรายได้จะเติบโตแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,000 ล้านบาท “กวิน” มั่นใจนักลงทุนสนแปลง VGI-W1 คาดตุนเงิน 1.2 หมื่นล้าน จ่ายค่าหุ้น 23% ในเคอรี่ เอ็กเพรส ลงทุนเปลี่ยนป้ายบิลบอร์ดเป็นป้ายดิจิทัล 40%
นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) แถลงแผนธุรกิจระยะ 3 ปีข้างหน้า ว่า บริษัทตั้งเป้าว่าในปีงบ 2563/2564 (เม.ย.2563-มี.ค.2564) รายได้จะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท จากปีงบ 2560/2561 ที่มีรายได้ 4,079 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยมาจาก 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน ธุรกิจให้บริการชำระเงินของแรบบิท กรุ๊ป และธุรกิจโลจีสติกส์ครบวงจรที่ได้ร่วมทุนกับเคอรี่ เอ็กเพรสและเดโมพาวเวอร์
“ตอนนี้ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านยังเป็นรายได้หลัก 80-90% ของ VGI แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้ตรงนี้จะลดเหลือ 50-60% หรือ 5,000-6,000 ล้านบาท และอีก 40% จะมาจากธุรกิจให้บริการชำระเงิน และธุรกิจโลจีสติกส์ ส่วนปีนี้เราคาดว่ารายได้ของ VGI จะเพิ่มขึ้นเป็น 4,600-4,700 ล้านบาท หรือเติบโต 15-20% จากปีก่อน ซึ่งจะมาจากการเติบโตของธุรกิจปกติ โดยไม่รวมธุรกิจใหม่ที่ซื้อเข้ามา และมีกำไรสุทธิ 23-25%”นายกวินกล่าว
นายกวิน ระบุว่า หลังใช้เวลา 3 ปี บริษัทพร้อมแล้วที่จะทำธุรกิจโฆษณาแบบใหม่ที่เชื่อมโยงทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อทำให้ลูกค้าที่ซื้อโฆษณากับ VGI ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม แต่ขายสินค้าได้มากขึ้นและมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น โดย VGI จะอาศัยช่องทางของธุรกิจที่มีอยู่ ทั้งป้ายบิลบอร์ด 1 หมื่นป้ายทั่วประเทศ รถส่งสินค้าเคอรี่ เอ็กเพรส และฐานข้อมูลแรบบิท การ์ด สำหรับทำการโฆษณาเชิงลึก จากเดิมที่สื่อโฆษณานอกบ้านทำหน้าที่สร้างการรับรู้แบรนด์เท่านั้น
“เราได้พัฒนารูปแบบโฆษณาสินค้าของลูกค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และในเวลาที่ถูกต้อง ด้วยการโฆษณาที่ตรงจุด โดยใช้ฐานข้อมูลการชำระเงินจากบัตรแรบบิท การ์ด ข้อมูลการส่งสินค้าของเคอรี่ เอ็กเพรส ซึ่งสัมผัสกับลูกค้าโดยตรงเป็นล้านๆคน ร่วมกับสื่อโฆษณาอื่นๆ เช่น ป้ายบิลบอร์ด รวมทั้งจะใช้รถส่งสินค้าของเคอรี่ฯเป็นพื้นที่สำหรับโฆษณา ในขณะที่ VGI จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดให้ลูกค้าแบบ one stop service ด้วย”นายกวินกล่าว
นายกวิน กล่าวว่า ในส่วนของใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอแรนท์) VGI-W1 ที่จะหมดอายุวันที่ 1 ส.ค.นี้ ส่วนตัวยังมั่นใจว่านักลงทุนจะใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 90% จากปัจจุบันที่มีการใช้สิทธิแปลงวอแรนท์แล้ว 9.5 ล้านหุ้น จากทั้งหมด 1,706 ล้านหุ้น เนื่องจากบริษัทมีแผนธุรกิจที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตชัดเจน และราคาหุ้น VGI ยังจูงใจให้นักลงทุนใช้สิทธิได้ โดยขณะนี้ราคา VGI-W1 บนกระดานอยู่ที่ 0.43 บาท ราคาใช้สิทธิ 7 บาท ส่วนราคาหุ้น VGI บนกระดานอยู่ที่ 8.40 บาท
“เงินที่ได้จาก VGI-W1 ประมาณ 1.2 หมื่นล้านนั้น 5,900 ล้านบาท จะนำไปชำระค่าหุ้น 23% ของเคอรี่ เอ็กเพรส อีก 1,000 ล้านบาท จะนำไปปรับปรุงป้ายบิลบอร์ดให้เป็นป้ายดิจิทัล 40% ของป้ายทั้งหมด และอีก 1,000 ล้านจะนำไปลงทุนระบบ AI เพื่อให้การโฆษณาผ่านสื่อต่างๆเป็นรูปแบบอัตโนมัติเช่นเดียวกับเฟสบุ๊ค ที่เหลือ 4,000 ล้าน เตรียมไว้สำหรับร่วมทุนกับกิจการอื่นๆ เช่น ธุรกิจทีวี วิทยุ แต่ทั้งหมดที่เราจะไปร่วมกับเบอร์ 1 เท่านั้น” นายกวินกล่าว
นายเนลสัน เหลียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าวว่า บริษัทได้สร้างแพลตฟอร์มการโฆษณารูปแบบใหม่ โดยใช้ฐานข้อมูลเชิงลึกที่มีอยู่มาพัฒนาสื่อของ VGI ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ปรับปรุงป้ายบิลบอร์ดที่มีอยู่ให้เป็นป้ายดิจิทัล 40% ของป้ายทั้งหมด เพื่อสร้างมูลค่าและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน รวมทั้งวิจัยและพัฒนาฐานข้อมูลที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าหรือพันธมิตรธุรกิจ และเชื่อมโยงแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ VGI กล่าวว่า การโฆษณารูปแบบใหม่จะทำให้ลูกค้าที่ใช้เงินโฆษณาผ่าน VGI ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่เพียงการรับรู้แบรนด์เท่านั้น ขณะที่ VGI จะมีข้อมูลให้กับลูกค้าด้วยว่าลูกค้าควรขายสินค้าอย่างไร สินค้าชนิดใดตรงกับความต้องการของลูกค้า เพราะ VGI มีฐานข้อมูลลูกค้าทั้งที่ได้จากบริการส่งสินค้าของเคอรี่ เอ็กเพรสที่มีปัจจุบันมีการจัดส่ง 7.5 แสนชิ้นต่อวัน และผู้ใช้บัตรแรบบิทการ์ด 8 แสนคน และพันธมิตรอื่นๆของ VGI
“VGI เติบโตอย่างถูกต้อง และลูกค้าที่มาใช้เงินผ่าน VGI จะได้ผลประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเขาใช้เวลามา 2-3 ปี ตอนนี้เขาพร้อมแล้ว”นายคีรีกล่าว