หุ้นไทยติดท็อปไฟว์โลก 13 ปีแจกผลตอบแทน 143%

HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชูหุ้นไทยระยะยาว 13 ปีย้อนหลัง แจกผลตอบแทน 143% สูงติด 1 ใน 5 เมื่อเทียบตลาดหลักของโลก ด้านตลาดหุ้นเดือนส.ค.ดัชนีร่วง 3.3% จากเดือนก่อนหน้าตามทิศทางตลาดภูมิภาค ผลกระทบสงครามการค้า ประท้วงที่ฮ่องกง Brexit เทียบต้นปีดัชนียังบวก 5.8% อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง 3.11% เทียบตลาดหุ้นเกิดใหม่เฉลี่ย 2.95%

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนส.ค.62 ดัชนีเพิ่มขึ้น 5.8% จากสิ้นปีก่อนในสกุลเงินบาท แต่เพิ่มขึ้น 12.5% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และในระยะยาวตั้งแต่ปี 2549 ถึงปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทน 143% ติดอันดับ 1 ใน 5 เมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์สำคัญของโลก

สำหรับภาพรวมในเดือนส.ค.62 ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดที่ 1,654.92 จุด ลดลง 3.3% จากสิ้นเดือนก่อน โดยกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนส.ค.2562 อยู่ที่ 65,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตามดัชนีปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นในภูมิภาคโดยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน การประท้วงในฮ่องกง และความเสี่ยงที่อาจเกิดการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้กระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีการส่งออก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ตลอดจนกลุ่มธุรกิจน้ำมัน ซึ่งผู้ลงทุนควรจับตามองความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด

ด้านกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนส.ค.2562 อยู่ที่ 65,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเดือนส.ค.62 จำนวน 54,263 ล้านบาท เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค แต่รวม 8 เดือน ยังซื้อสุทธิ ขณะที่ Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย อยู่ที่ระดับ 16.5 เท่า และ 18.8 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.3 เท่า และ 15.6 เท่าตามลำดับ ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน อยู่ที่ระดับ 3.11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ MSCI Emerging Market ที่อยู่ที่ 2.95%

ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนส.ค.2562 อยู่ที่ 17.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากสิ้นปี 2561 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนี โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 22,839 ล้านบาท

สำหรับภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนส.ค.62 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 504,536 สัญญา เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก