TPAC เพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิม – ย้ายหุ้นเข้า SET

HoonSmart.com>> “พลาสติคและหีบห่อไทย” ชงผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน 72.73 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 3.4898 : 1 ราคา 11 บาท/หุ้น เตรียมนำเงินชำระหนี้กว่า 800 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจ ซื้อกิจการ พร้อมเพิ่มสภาพคล่องหุ้น รองรับแผนย้ายหุ้นเข้าเทรดตลาด SET

บริษัท พลาสติคและหีบห่อไทย (TPAC) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 4 ก.ย.2562 เห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่ายจำนวน 1,182,324 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หลังจากนั้นเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 253.82 ล้านบาท เป็น 326.55 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 72.73 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 3.4898 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน และในราคาเสนอขายหุ้นละ 11 บาท

บริษัทกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วน การถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 และวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 14-15 และ 18-20 พฤศจิกายน 2562 (รวม 5 วันทำการ)

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 15 ตุลาคม 2562

สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของงบดุลของบริษัท อันเนื่องจากการนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนส่วนใหญ่ไปชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน และหรือหนี้อื่น ๆ ประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความพร้อมในการขยายธุรกิจและการเข้าซื้อกิจการในอนาคต รวมทั้งเพิ่มสภาพคล่องหุ้นของบริษัท

นอกจากนี้ทำให้บริษัทฯ มีคุณสมบัติเรื่องทุนตามหลักเกณฑ์สำหรับการย้ายหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์ที่จะย้ายหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งจะช่วยขยายฐานของนักลงทุนได้กว้างมากขึ้น ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงได้ดียิ่งขึ้น

บริษัทฯ จะนำมติดังกล่าวเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 ต.ค.2562 พร้อมทั้งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 24 ต.ค.2562 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 14-15 และ 18-20 พ.ย.2562