HoonSmart.com>>”ปริน” ผู้ถือหุ้นใหญ่ พีพี ไพร์ม ผงาดนั่งประธานกรรมการ พร้อม CEO คนใหม่ เร่งแก้วิกฤต ยันขาดสภาพคล่องทางเทคนิค ผลการดำเนินงานขาดทุน คาดเจรจาแก้หนี้จบในไตรมาส 3 เร่งลดค่าใช้จ่าย ยันธุรกิจแข็งแรงสร้างรายได้ปีละ 2,000 ล้านบาท
นายปริน ชนันทรานนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 15.16% และประธานกรรมการคนใหม่ของ บริษัท พีพี ไพร์ม (PPPM) นำทีมผู้บริหารใหม่ นายวรุณ อัตถากร ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานกรรมการบริหาร และนายประวีณ ดีขจรเดช ได้โปรโมทขึ้นมาผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน แถลงข่าว โดยยืนยันว่า บริษัทประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางเทคนิคเท่านั้น การดำเนินงานไม่มีปัญหาแต่อย่างใด บริษัทยังคงมีทรัพย์สินกว่า 3,000 ล้านบาท มากกว่าหนี้สินจำนวน 2,000 ล้านบาท โรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเปิดขายเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว
นายปรินกล่าวว่า บริษัทมีการเจรจากับสถาบันการเงินเรื่องหนี้ระยะยาว ไม่น่าจะมีปัญหาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3
ส่วนการที่หุ้นถูก SP ห้ามซื้อขายวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2562 ซึ่งสำนักงานก.ล.ต.อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้ นายปรินกล่าวว่า ตลาดขึ้น SPตามขั้นตอนปกติ ให้ผู้ถือหุ้นมีเวลาอ่านข้อมูลหลังจากผู้สอบบัญชีกังวลเรื่องการแก้ปํญหาหนี้ ซึ่ง ตลาดหลักทรัพย์จะปลดเครื่องหมาย SP อนุญาตให้ซื้อขายได้ตามปกติในวันทื่ 16 ส.ค. 2562
“บริษัทไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก เพียงแต่การขาดสภาพคล่องชั่วคราว ธุรกิจยังคงดำเนินการปกติ ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ล้านบาท บริษัทมีสินทรัพย์มากกว่า 3,000 ล้านบาท สูงกว่าภาระหนี้สินที่มีอยู่จำนวน 2,000 ล้านบาท บริษัทจะต้องลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้การดำเนินงานดีขึ้น และมีการขายทรัพย์สินบางรายการ ส่วนโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นก็จะขายเข้ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทถือลงทุนประมาณ 20% แต่ขั้นตอนที่ญี่ปุ่นต้องใช้เวลา ส่วนเงินลงทุนในหุ้นบริษัทจดทะเบียน ขอไม่กล่าวถึง”นายปรินกล่าว
ด้านนายวรุณ กล่าวว่า บริษัทจะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ชุดที่ 2 วงเงิน 320 ล้านบาทในวันที่ 2 ก.ย. นี้ โดยมีผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด 250 ราย เชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติให้ขยายเวลาไถ่ถอนออกไป 330 วันตามที่บริษัทร้องขอ
“บริษัทผิดนัดชำระหุ้นกู้ชุดที่ 2 เกิดจากการประเมินผิดพลาด คาดว่าจะเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ได้ประมาณ 500 ล้านบาท แต่กลับได้เงินเพียง 250 ล้านบาท ขาดเงินส่วนที่จะต้องใช้ชำระคืนหุ้นกู้ชุดที่ 2 ซึ่งแนวทางการแก้ไขจะมีการขายสินทรัพย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จใน ไตรมาส 4/2562 ส่วนหนี้ระยาวกับธนาคาร 927 ล้านบาทนั้น มีการเจรจาแล้ว ปัจจุบันอยู่ในกระบวนออกเอกสารออกมาเพื่อยืนยันไม่เรียกหนี้คืน “นายวรุณกล่าว
ส่วนคำถามเรื่องการนำเงินไปใช้ลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ นายวรุณ กลับชี้แจงว่า การระดมทุนทุกครั้งจะต้องมีวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน
ทางด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 PPPM ขาดทุนสุทธิ 111 ล้านบาท แย่ลงมากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุนเพียง 0.91 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนปีนี้ขาดทุนถึง 161 ล้านบาท ขณะที่ระยะเดียวกันปีก่อนขาดทุน 24 ล้านบาท