HoonSmart.com>>ตะลึง !!! เปิดพอร์ต PPPM พบลงทุนหุ้นร้อนในตลาดหลักทรัพย์ พัวพัน 2-3 บริษัท ปมเหตุชักดาบหุ้นกู้ 2 ชุด จี้ตลาดหลักทรัพย์ ตรวจสอบ การแจ้งแบงก์จ่ายหนี้แทน เข้าข่ายแจ้งเท็จหรือไม่ ขณะที่ตลาด SP รอบใหม่ รอคำชี้แจง ส่วนแบงก์ใบโพธิ์ ไล่บี้ขอเงินโอนจากผู้ถือหุ้นกู้คืน
เปิดพอร์ตลงทุนบริษัท พีพี ไพร์ม (PPPM) พบว่ามีการลงทุนบริษัทในตลาดถึง 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 สัดส่วน 13.67 %, ถือหุ้นบริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวอร์ค (STAR) อันดับ 2 สัดส่วน 11.72 % , ถือหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี (AEC) สัดส่วน 1.51%
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใน PPPM เกี่ยวโยงกันกับผู้ถือหุ้นของ 3 บริษัทดังกล่าวด้วย โดยมี นาย “ป.” น.ส. “ ส.” ที่มีความสนินสนมอย่างมาก ลงทุนธุรกิจกัน ทำให้ถือหุ้นไขว้ไปมา ใช้เงินกันในกลุ่มเดียวกัน
บล.เออีซี ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ของ PPPM ทั้งหมด 5 ชุด มูลค่ารวม 1,122 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 มีบล.ยูโอบีเคย์เฮียน เข้ามาร่วมด้วย และชุดที่ 5 มีบล.เคทีบีร่วมขาย และเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ด้วย
นอกจากนั้นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PPPM เช่น นางอนัญญา เรืองศักดิ์วิชิต ยังมีการถือหุ้น AEC,ACAP และ STAR เช่นกัน
แหล่งข่าวตลาดทุน กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ PPPM เชื่อว่า ไม่ได้เกิดจากผลกระทบการควบคุมเข้มข้นของมาตรการกำกับดูแลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แต่น่าจะเกิดจากความเสียหายทุจริตของกลุ่มนักลงทุนซึ่งถือหุ้นไขว้กันไปมา มีการนำเงินไปใช้ในกลุ่ม ไปลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
แหล่งข่าวกล่าวว่า ต้องจับตาดูว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้ PPPM จะจ่ายเงินให้กับผู้ถือหุ้นกู้ชุดที่ 1-2 ครบได้หรือไม่ เนื่องจากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นนายทะเบียนและผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ยืนยันว่า PPPM ไม่ได้นำเงินฝากเข้าบัญชี เพื่อจ่ายให้ผู้ถือหุ้นกู้ อย่างที่บริษัทแจ้ง แต่เงินที่จ่ายออกไป 216.8 ล้านบาท เป็นการตัดเงินของธนาคารจากระบบ ด้วยความผิดพลาด
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หุ้นกู้ชุดที่ 5 มีหลักประกันคุ้มวงเงินหุ้นกู้ 207.60 ล้านบาท ซึ่ง PPPM นำบริษัทลูก เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ทำธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นหัวใจของ PPPM ผลประกอบการมีกำไร มาประกันการออกหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนคืนวันที่ 18 มี.ค. 2564
ขณะที่นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะนายทะเบียนหุ้นกู้ บอกว่า ธนาคารจะเรียกเงินคืนจากผู้ถือหุ้นกู้ PPPM จำนวน 216.8 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีผู้ถือหุ้นกู้จากความผิดพลาดของระบบธนาคาร โดย PPPM ยังไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีเพื่อจ่ายให้ผู้ถือหุ้นกู้
ข่าวดังกล่าว ส่งผลให้หุ้น SCB ปรับตัวลงอย่างหนัก ปิด 134.50 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 2.89% มูลค่าซื้อขาย 1,335.09 ล้านบาท
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกฎหมาย สำนักงานก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า PPPM ให้ข้อมูลเป็นเท็จหรือไม่ เบื้องต้นตลาดหลักทรัพย์ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล ให้ ก.ล.ต. แต่ปัจจุบันยังไม่มีการส่งเรื่องเข้ามายัง ก.ล.ต.
ส่วนผู้ลงทุนหุ้นกู้ PPPM สามารถฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เรียกร้องการชดเชยค่าเสียหายได้ และศาลจะรับคำร้องดำเนินคดีในรูปแบบกลุ่มหรือไม่ (Class Action) เพื่อสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก.ล.ต. มีแนวคิดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุน โดยนำเงินจากการเปรียบเทียบปรับจากผู้กระทำความผิด มาชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย
ด้านตลาดหลักทรัพย์ สั่งขึ้นเครื่องหมาย H สำหรับการซื้อขาย PPPM ช่วงเช้าและ SP ช่วงบ่าย เพื่อรอการชี้แจงจากบริษัท กรณีแบงก์ไทยพาณิชย์ชี้แจง PPPM ไม่ได้นำเงินมาชำระหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ ตามที่บริษัทฯ แจ้ง
อา่นประกอบ :