EA ลั่นปี 63 รายได้ทะลุ 2 หมื่นล.- ผลิตไฟ 664 เมกก์-รถไฟฟ้า-แบตเตอรี่

“พลังงานบริสุทธิ์” ลั่นปีหน้า รายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาท รับเต็ม ๆ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 664 เมกกะวัตต์ ไบโอดีเซล รถไฟฟ้า 4,500 คัน และแบตตารี่ จับมือ 4 พันธมิตร ติดตั้งสถานีชาร์ตสิ้นปีนี้ 1,000 สถานี

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กล่าวว่า ปี 2563 บริษัท ฯ จะมีรายได้กว่า 2 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่มีรายได้ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ผลิตเต็ม 664 เมกกะวัตต์ นอกเหนือจากรายได้ขายรถไฟฟ้าจำนวน 4,500 คัน , โรงงานผลิตแบตเตอรี่ และธุรกิจผลิตแบตเตอรี่

สิ้นปี 2562 EA จะเป็นผู้ให้บริการสถานีชาร์ตไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 1,000 สถานี ในกรุงเทพ-ปริมณฑล 600-700 สถานี และต่างจังหวัด 300 สถานี

ทั้งนี้ บริษัท พลังงานมหานคร บริษัทย่อยของ EA ได้จับมือ 4 พันธมิตร ยักษ์ใหญ่ชั้นนำของประเทศและระดับโลก ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เชฟรอน (ไทย) , บริษัท ซีพี ออลล์ , บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย), และ บริษัท โรบินสัน ในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่การให้บริการและการดำเนินธุรกิจของพันธมิตรในครั้งนี้ทั่วประเทศ เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และ ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (BEV)  เป้าหมายการเปิดให้บริการทั้งสิ้น 1,000 สถานี จะบรรลุได้ภายในปีนี้

“เราเริ่มต้นสร้าง EA Anywhere กันในปี 2560 จากแนวคิดที่จะนำสังคมไทยเข้าสู่ยุคแห่งการเดินทางด้วยยานยนต์สมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มีความปลอดภัย สะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า PHEV และ BEV เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในทุกๆ แห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย การมีสถานีชาร์จที่เพียงพอและมีคุณภาพ ทันสมัย เป็นเครือข่าย จึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องมี ผู้ใช้รถจึงมั่นใจและกล้าที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้า” นายอมร กล่าว

บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับ พันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนที่มีวิสัยทัศน์และแนวคิดคล้ายๆ กัน ทำการสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ทันสมัย ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EA Anywhere” และได้พัฒนา Mobile Application ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งาน ในวันนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมสูงที่สุดด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งสี่ราย นำสังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทางด้วยยานยนต์สมัยใหม่ที่มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความหลากหลายมากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถเข้ารับบริการได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างครบวงจร อาทิเช่น สถานีบริการน้ำมัน, ศูนย์บริการด้านยานยนต์, ร้านสะดวกซื้อ, ศูนย์การค้า และร้านอาหารต่าง ๆ เป็นต้น

นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการ และผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) หนึ่งในผู้นำด้านพลังงานและผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันคุณภาพระดับโลก ภายใต้แบรนด์ “คาลเท็กซ์” กล่าวว่า “คาลเท็กซ์ ไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันและบริการคุณภาพระดับโลก เพื่อตอบสนองต่อวิวัฒนาการ และเสริมสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้า โดยการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ เพื่อขยายบริการและเพิ่มทางเลือกด้านพลังงานให้ตรงกับความต้องการใช้งานของผู้ใช้รถในประเทศไทย ซึ่งนอกจากผู้ใช้รถยนต์ทั้งแบบไฮบริดและยานยนต์ไฟฟ้า สามารถมาใช้บริการอัดประจุไฟฟ้าได้ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์แล้ว ยังสามารถใช้บริการด้านอื่น ๆ อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย”

นายวิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินธุรกิจบริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เคียงคู่สังคมไทยมากว่า 30 ปี คำนึงถึงความรับผิดชอบที่มีต่อลูกค้า สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับแนวทางด้านความยั่งยืนตามหลักสากลให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับการประกอบธุรกิจ ภายใต้โครงการ 7 Go Green ยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของบริษัท จึงได้ร่วมกับ EA Anywhere ทำการติดตั้งเครื่องชาร์จสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่หน้าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 21 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

นายธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) กล่าวถึงมุมมองของผู้ให้บริการด้านรถยนต์ต่อนวัตกรรมยานยนต์ที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการเตรียมความพร้อมสำหรับรถยนต์ PHEV และ BEV ในอนาคต โดยปัจจุบัน A.C.T. และ COCKPIT ถือว่าเป็นผู้ให้บริการในกลุ่ม FAST FIT ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ และมีความสามารถในการบำรุงรักษารถยนต์ได้หลากหลายรูปแบบอาทิเช่น ยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง แบตเตอรี่ โช๊คอัพ ระบบเบรก เป็นต้น การนำบริการ Charging Station เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการบนพื้นที่ของเราในครั้งนี้ จะเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำที่เชี่ยวชาญในการให้บริการอย่างมืออาชีพ และสามารถดูแลรถทุกชนิด ทุกยี่ห้อ และทุกรุ่นได้อย่างครบวงจรอย่างแท้จริง และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะออกมาบนท้องถนนมากขึ้นเป็นลำดับด้วยเช่นกัน

ขณะที่นายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โรบินสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีจำนวนสาขา มากกว่า 49 สาขาทั่วประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธุรกิจศูนย์การค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดดมาก เพื่อรองรับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และรูปแบบการใช้บริการต่าง ๆ ในพื้นที่ของเรา การคัดเลือกพันธมิตรของเราจึงต้องคำนึงถึงศักยภาพ และความพร้อมในการให้บริการในระยะยาวเกี่ยวกับบริการนั้น ๆ ทางเราเลือก EA Anywhere เพราะถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า และมีความพร้อมในการให้บริการครบวงจร และยังมี Application รองรับการใช้งานซึ่งค่อนข้างสะดวกมาก จึงมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการบริการที่เป็นเลิศภายในศูนย์การค้าของเรา