HoonSmart.com>> สมาคมบลจ.เฮ! ต่ออายุภาษีกองทุน LTF สศค.ซุ่มศึกษาปรับใส้ในให้ลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานและกลุ่มหุ้นยั่งยืน มีธรรมาภิบาล หนุนเติบโต พร้อมลดวงเงินลดหย่อนภาษีต่อรายเหลือ 250,000 บาท จาก 500,000 บาท รอฟังรายละเอียดชัดเจนจากภาครัฐ คาดเดือน ก.ค.นี้
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการต่ออายุและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งจะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ โดยสมาคมฯ มองว่าเป็นบวกต่อระบบ ซึ่งกองทุน LTF จะช่วยให้คนเข้ามาในระบบการออมได้ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดการลงทุนของกองทุนใหม่ก็ตาม
สำหรับเงื่อนไขใหม่กำหนดให้กองทุนลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของไทยและกลุ่มหุ้นยั่งยืน เช่น หุ้นของบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) หุ้นของบริษัทที่มีการทำธุรกิจที่ยั่งยืน (ESG) ในสัดส่วน 50% ของพอร์ตรวม ซึ่งจะผลักดันให้การลงทุนกลุ่มดังกล่าวเติบโตขึ้นอย่างมีศักยภาพ และสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐที่เน้นเรื่องธรรมภิบาลและความยั่งยืนของประเทศ ส่วนหุ้นอีก 50% เปิดกว้างให้ลงทุนหุ้นทั่วๆ ไป ส่วนระยะเวลาการถือครอง LTF ยังกำหนด 7 ปีเช่นเดิม
นอกจากนี้เงื่อนไขใหม่มีการปรับลดวงเงินลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุน LTF จากเดิมลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท เป็นไม่เกิน 250,000 บาท
“รูปแบบของกองทุน LTF ตามแนวทางสศค.นั้น ส่วนใหญ่คล้ายกับที่สมาคมฯ ได้เสนอไปตั้งแต่แรก ทั้งในเรื่องของการเข้าลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของไทยต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบขณะนี้ รวมถึงกลุ่มหุ้นยั่งยืน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างกันคือเรื่องของวิธีคำนวณภาษีกับวงเงินสิทธิลดหย่อนประโยชน์ทางภาษี โดยสมาคมฯ คงต้องรอทางกระทรวงการคลังและสรรพากรชี้แจงในรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะภายในเดือนก.ค.2562 นี้และหลังจากนั้นคลังต้องส่งเรื่องต่อให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติ”นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าว
พร้อมกับมองว่า ไม่ว่ารูปแบบของการต่ออายุภาษีกองทุน LTF จะเป็นรูปแบบไหน เชื่อว่าได้ผ่านการคัดกรองมาเป็นอย่างดีและช่วยลดการเหลื่อมล้ำได้ดีขึ้น อีกทั้งจากการสำรวจการลงทุนในกองทุน LTF ในช่วงที่ผ่านมา กว่า 80% ผู้ที่เข้ามาลงทุนเพื่อขอสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดอยู่ที่วงเงินประมาณ 150,000 บาทต่อราย ดังนั้น วงเงินสิทธิลดหย่อนภาษีที่ปรับลงเหลือ 250,000 บาทต่อราย จึงไม่น่าจะฉุดความต้องการลงทุนผ่านกองทุน LTF ลดลง เพราะหากมองด้านผลตอบแทนกองทุน LTF ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสร้างกำไรให้กับนักลงทุนระดับสูง
“นักลงทุนที่เคยลงทุนกองทุน LTF เริ่มมีประสบการณ์ในการลงทุน เห็นได้จากเมื่อครบระยะเวลาที่สามารถขายคืนได้ จะมีสัดส่วนประมาณ 25-30% ที่ขายกองทุน LTF ออกมา ส่วนที่เหลือยังถือลงทุนต่อ”นายวศิน กล่าว
พร้อมระบุว่ การลงทุนผ่านกองทุน LTF และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในแต่ละปีมีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามาเฉลี่ยต่อปีประมาณ 50,000 ล้านบาท และหากต่ออายุกองทุน LTF ออกไปก็จะมีเงินเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง โดยยังเชื่อว่ากองทุน LTF จะดึงดูดให้นักลงทุนใหม่เข้ามาสู่การออมผ่านกองทุนเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันกองทุน LTF มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิทั้งระบบ 386,689 ล้านบาท เติบโต 1.18% จากสิ้นปี 2561