HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีได้ปัจจัยหนุนสงครามการค้าสหัฐ – จีน เริ่มผ่อนคลายลง ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ประเมินแนวต้านดัชนี 1,160 – 1,170 จุด ส่วนแนวรับ 1,140 จุด ติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือนมี.ค. แนะทยอยซื้อกลุ่มอาหาร รับแนวโน้มส่งออกและราคาเนื้อสัตว์อยู่ในทิศทางบวก, กลุ่มค้าปลีกได้แรงหนุนกำลังซื้อไตรมาสแรก, กลุ่มไฟแนนซ์ได้ผลบวกดอกเบี้ยขาลง เล่นเก็งกำไร DELTA, CCET หุ้นเด่นเชียร์ GFPT, BCH
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,140 จุด แนวต้าน 1,160 – 1,170 จุด โดยคาดดัชนีได้ปัจจัยหนุนจาก แนวโน้มสงครามการค้าสหัฐ – จีน เริ่มผ่อนคลายลง แนะนำทยอยซื้อ CPF,GFPT,TFG,FM จากแนวโน้มส่งออกอาหารและราคาเนื้อสัตว์อยู่ในทิศทางบวก กลุ่มค้าปลีก BJC,MOSHI ได้แรงหนุนจากกำลังซื้อในช่วง Q1 ที่ผ่านมา และ SAWAD,MTC,DIF ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง และเก็งกำไรกลุ่ม High Beta เช่น DELTA,CCET
วันนี้ติดตาม ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออกไทย มี.ค. คาด +12.8% & ก.พ. +14.0% YoY โดยในช่วง 1H/68 คาดส่งออกไทยยังปัจจัยหนุนจากเร่งรีสต็อคสินค้า ก่อนที่จะถึงกำหนด 90 วัน ที่สหรัฐจะเริ่มใข้ภาษีศุลกากรตอบโต้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.07%, S&P500 +1.67%, Nasdaq +2.50% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +2.92%, สินค้าฟุ่มเฟือย +2.76% หลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งสัญญาณคลี่คลายข้อพิพาทการค้าสหรัฐ – จีน หลังสหรัฐเรียกภาษีศุลกากรสินค้าจีนที่อัตรา 145% คาดจะมีการปรับลดลง
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +1.78% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +3.9%, ทรัพยากรพื้นฐาน +3.3% และธนาคาร +3.8%
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจเข้านี้ GDP เกาหลีใต้ Q1/68 -0.2% QoQ, -0.1% YoY จากปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลลบไปยังความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศ
หุ้นเด่นแนะนำ GFPT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 12.10 บาท) แนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์ยังอยู่ในระดับต่ำ แนวคิดการนำเข้าสินค้าการเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นเรื่องดี ขณะที่การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในประเทศซีกโลกเหนือและประเด็นสงครามการค้า ส่งผลบวกต่อผู้ส่งออกไก่ไทยมีโอกาสขายมากขึ้นตามความต้องการบริโภคเนื้อไก่ในตลาดโลก เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q68 คาดกำไรเพิ่ม QoQ หนุนจากราคาเนื้อไก่ในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น สวนทางต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงหนุน margin ขยายตัว ส่วนแบ่งกำไรจาก McKey และ GFN จะฟื้นตัว ส่วนภาพรวมปี 68 เบื้องต้นตลาดคาดกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อน +15%YoY
หุ้น BCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท) ประเมินแนวโน้มการดำเนินงาน 1Q68 ฟื้นตัวได้เด่น QoQ หลัง 4Q67 มีปัจจัยกดดันกำไรจากรายการลบจากการปรับการรับรู้รายได้ประกันสังคมโรค Adj.RW>2 เหลือ 8,000 บาท/adj.RW และ การปรับปรุงรายการ Covid-19 ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้
ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิของ BCH ปี68 จะอยู่ที่ 1,651 ล้านบาท (+29%YoY) โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1.ความเสี่ยงของการรับเงินประกันสังคมในปี68 ลดลง คาดว่า SSO จะสามารถจ่ายโรค adj.RW>2 ที่ 1.2 หมื่นบาท/adj.RW ได้ และ 2.กลุ่มรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่ BCH มีการเซ็นสัญญาร่วมกับมัลดีฟส์ เพื่อรับผู้ป่วยเข้ามารักษาที่ ร.พ.WMC
