HoonSmart.com>>บล.เอเซียพลัส มองแนวโน้มหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 1610 – 1630 จุด สงครามการค้าผลักฟันด์โฟลว์ซบสินทรัพย์ปลอดภัย แนะเลี่ยงหุ้นเกี่ยวข้องการค้าระหว่างประเทศ ด้านบล.กสิกรไทย ให้แนวรับ 1,620 จุด รอจับตาการตอบโต้สงครามการค้าและสถียรภาพรัฐบาลหลังเลือกตั้ง
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมินว่า SET Index น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1610 – 1630 จุด กลยุทธ์การลงทุนให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ เช่น กลุ่มส่งออก กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี รวมถึง กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเทคโนโลยี แต่ควรให้น้ำหนักมากขึ้นในหุ้น Domestic Play ที่น่าจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์ เช่นกลุ่มนิคมฯ ที่มีตัวเลือกทั้ง FPT, WHA และ AMATA นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน อย่าง EASTW
ทั้งนี้มองว่า การชะลอตัวของปริมาณการค้าโลก ส่งผลกระทบต่ออัตรการเติบโตทางเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่สถานการณ์ในเรื่องของสงครามการค้า หรือ Trade War ที่เป็นต้นเหตุอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงขึ้น และขยายตัวเข้าไปในกลุ่มสินค้าประเภทเทคโนโลยีจนเริ่มเห็นแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของ Tech War ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ภาพรวมการใช้นโยบายการเงินของหลายประเทศออกมาในเชิงผ่อนคลาย โดยเริ่มเห็นการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ Fund Flow ยังมีทิศทางที่ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย จึงยังไม่น่าจะเห็นเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดหุ้นในช่วงเวลานี้
ด้านบล.กสิกรไทย คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,620-1,630 จุด รอดูเสถียรภาพของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะออกมา 2 แนวทางตามที่เราเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนคือ 1) Smooth transition (โอกาส 40%) รัฐบาลได้เสียงชนะฝ่ายค้านเกิน 30 เสียง และ 2) Transition (โอกาส 50%) รัฐบาลได้เสียงชนะฝ่ายค้านไม่ถึง 30 เสียง ซึ่งตอนนี้ตลาดเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะไม่มีเสถียรภาพ (กรณี Transition) แต่หากรัฐบาลสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้เกิน 30 เสียง ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ คาดจะเป็นบวกกับตลาด มอง upsides ที่ 1,750 จุด และแนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการซื้อของนักลงทุนต่างชาติ
ในส่วนสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนยังคงต้องติดตามกระแสข่าวการตอบโต้ที่ออกมาเป็นระยะก่อนทั้งสองฝ่ายรอเจรจาในการประชุม G20 เดือนหน้า ซึ่งเรายังคาดหวังผลลัพธ์เชิงบวก เพราะตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอใน 2H19 และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 จะทำให้ท่าทีของสหรัฐฯแข็งกร้าวน้อยลง โดยความเสี่ยงที่จะกระทบต่อประมาณการกำไร และเป้าหมาย SET Index ปีนี้ของเรา คือสงครามการค้าอาจยืดเยื้อไปถึง 2H19 และมีการใช้มาตรการตอบโต้ที่ไม่ใช่ภาษี มากขึ้นจะสร้างความกังวลให้ตลาดมาก เพราะประเมินผลกระทบยาก และอาจตอบโต้กันไปเรื่อยๆ ไม่จบ