HoonSmart.com>>”อินโดรามาฯ” ปรับเป้า EBITDA ปี 62 ลง 10-15% จากเดิมตั้งเป้าไว้ 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 25% หลังผลงานไตรมาส 1/62 กำไรหด 36% ผลกระทบจากธุรกิจธุรกิจ Olefins และ Specialty Chemicals
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 1/2562 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 มีจำนวน 3,707.72 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.61 บาท ลดลง 36.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,814.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.04 บาท
ในงวดไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ มีปริมาณการผลิต 3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเกิดจากการเข้าซื้อกิจการใหม่ในปี 2561 การควบรวมกิจการร่วมค้าของธุรกิจ PET ในประเทศอินเดีย การควบรวมกิจการร่วมค้าของธุรกิจ PTA ในประเทศอินโดนีเซียและอัตรากำลังการผลิตที่สูงขึ้น
ส่วน Core EBITDA เท่ากับ 304 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 4% จากไตรมาสก่อน โดยได้รับประโยชน์จากผลกำไรที่สูงขึ้นจากกลุ่มธูรกิจ Intergrated PET,Fibers และ Packaging หักลบกับผลกระทบจากการสูญเสียการผลิตในธุรกิจ Olefins และอัตรากำไรที่ลดลงในธุรกิจ Specialty Chemicals
บริษัทฯ มีอัตรากำไร Core EBITDA เท่ากับ 10% ลดลง 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อนและลดลง 12% จากไตรมาสก่อนหน้า
สาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/2562 และ 12 เดือนล่าสุดได้รับผลกระทบจากธุรกิจ Olefins และ Specialty Chemicals รายได้จากโรงงาน EO-EG (เริ่มกลับมาดำเนินผลิตในวันที่ 2 พ.ค.2562) คาดว่าอัตรากำไรจะปรับตัวลงสู่ระดับเฉลี่ยของปี 2559-2561 ในปี 2563 รายได้จาก US Gas Cracker (ซึ่งอยู่ในช่วงของการเร่งกำลังการผลิต) จะยังคงอ่อนตัวต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไป จากความอ่อนตัวในส่วนต่างราคาระหว่าง ethane กับ ethylene ในสหรัฐอเมริกา รายได้จากธุรกิจ Specialty Chemicals คาดว่าจะยังต่ำกว่าที่คาดการณ์สำหรับระยะเวลาที่เหลือของปี เนื่องจากการอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องของอัตรากำไรของ IPA
ธุรกิจหลักของบริษัท (Intergrated PET,Fibers และ Packaging) คาดว่าจะยังคงความแข็งแกร่งตลอดช่วงที่เหลือของปี 2562 รายได้จากธุรกิจ Olefins และ Specialty Chemicals จะยังอ่อนตัวในช่วงที่เหลือของปี 2562 จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าส ทำให้บริษัทได้ทบทวนพอร์ตฟอริโออย่างถี่ถ้วนและเชื่อว่าอาจมีความเหมาะสมที่จะลดเป้าหมายของ Core EBITDA สำหรับปี 2562 ที่ประกาศไปก่อนหน้าลง 10-15%
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ตั้งเป้า Core EBITDA ในปี 2562 อยู่ที่ 1,750 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากปี 2561 อยู่ที่ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามจากโอกาสทางธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ดีของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความแข็งแกร่งของธุรกิจ Intergrated PET และ Fibers ทำให้พอร์ตฟอริโอของ IVL มีแนวโน้มเติบโต ดังนั้นบริษํทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่ม EBITDA เป็น 2 เท่าได้ในทุกๆ 5 ปี
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ระบุว่า IVL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/19 มีกำไรสุทธิ 3,707 ล้านบาทหรือ กำไรต่อหุ้น 0.61 บาท (-36.2% yoy, +57.5% qoq) แต่หากตัดรายการพิเศษออกจะมีกำไรปกติ 2,976 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 5% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 63.72 บาท โดยคำแนำนะนักวิเคราะห์ Buy/Hold/Sell : 18/3/1 ตามลำดับ
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า IVL กำไรไตรมาส 1/2562ดีกว่าตลาดคาด ผสานช่วงไตรมาส 2/2562เป็น Seasonal และ PTA Spread ฟื้นตัว สู่ 173.4 เหรียญฯ 12% m-m เป็นบวกต่องบไตรมาส 2
ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ยัง แนะนำเก็งกำไร 47/48/50บาท และมีจุดตัดขาดทุนที่ Double bottom price กรณีหลุด 44.75บาท
ด้านราคาหุ้น IVL ปิดภาคเช้าอยู่ที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.54% มูลค่าการซื้อขาย 862.97 ล้านบาท
อ่านประกอบ