HoonSmart.com>>ตลท.เอาจริงเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน เห็นโอกาสทางธุรกิจ ยัน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา ไม่กระทบสภาพคล่อง
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข่าววันที่ 30 เม.ย. 2562 ในวันที่ตลาดหลักทรัพย์ก้าวสู่การดำเนินงานในปีที่ 45 ว่าพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2562 จะมีผลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทย่อย ซึ่งไม่เหลือการผูกขาดอีกต่อไปแล้ว และมองว่ากฎหมายใหม่กลับช่วยพัฒนาศักยภาพ เพิ่มประสิทธิภาพและความเข้มข้นในการทำงานให้มากขึ้น สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริงของตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในกลุ่ม เช่น ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพราะธุรกิจจะมีคู่แข่งมากขึ้น ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะในประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้ตลาดหลักทรัพย์นำสินค้าออกไปนำเสนอขายยังต่างประเทศ พร้อมหาสินค้าดีๆเข้ามาในประเทศไทย และเชื่อมตลาด CLMV โดยตลาดหลักทรัพย์แต่ละแห่งไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องใช้เวลานาน
สำหรับบริษัทหลักทรัพย์จะต้องปรับตัวให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพราะกฎหมายใหม่ เปิดให้บุคคลที่ไม่ใช่โบรกเกอร์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรง เช่น บล.ต่างประเทศ ไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์เหมือนปัจจุบัน แต่ตลาดจะต้องศึกษาวิธีการคัดกรองคำสั่งซื้อขาย เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นแล้วมีผลกระทบต่อระบบโดยรวม รวมถึงวางกติกาต่างๆ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ขณะเดียวกันโบรกเกอร์ก็มีโอกาสทางธุรกิจด้วยเช่นกัน อนุญาตให้ซื้อขายหุ้นนอกตลาดได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
ตลาดหลักทรัพย์พัฒนารูปแบบการซื้อขายในตลาดสินทรัพย์แบบดั้งเดิม และการซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างความหลากหลายในการให้บริการ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ ในส่วนสินทรัพย์ดิจิทัลคาดว่าในไตรมาส 4 จะมีบางส่วน และในไตรมาส 1/2563 จะเริ่มใช้จริง
” เราจะต้องหาและสร้างจุดแข็ง แต่ไม่จำเป็นต้องทำคนเดียว กำลังหาพันธมิตรในเรื่องดิจิทัล ถ้าเราทำได้จะเป็นที่ 1 ของโลก เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครทำ มีการทำ work shop กับตลาดอื่น “นายภากรกล่าว
สำหรับพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผลต่อโครงสร้างคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ยืนยันว่าไม่มีปัญหาสภาพคล่องและมีเงินทุนในการพัฒนา หลังจากตลาดหลักทรัพย์จ่ายทุนประเดิม 5,700 ล้านบาท และนำส่งรายปี คิดเป็น 90% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ภาษีและสำรอง ทั้งนี้เงินสำรองตลาดสามารถนำไปใช้ในการลงทุนพัฒนาได้ และหากมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน หรือต้องการลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตลาดทุน กองทุน CMDF ก็สามารถให้เงินสนับสนุนได้ โดยตลาด จะต้องส่งแผนงานและวัตถุประสงค์ให้กับคณะกรรมการของกองทุน CMDF พิจารณา
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์มีสินทรัพย์เกือบ 18,000 ล้านบาท รวมที่ดินและอาคาร ไม่มีหนี้สินเลย เตรียมเงินไว้ใช้จ่าย 3-4 เดือน มีเงินสำรอง อยู่ในพันธบัตรรัฐบาล และพอร์ตลงทุนระยะยาว