โดย …อุเทน ชาติภิญโญ
30 ปีแล้ว เป็นอย่างน้อย ที่ประเทศไทยเริ่มเกิดความแตกแยก ความวุ่นวายในสังคมเริ่มมีขึ้น เหมือนหมอกควัน ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรง สร้างความเสียหายให้ประเทศ นั่นเพราะ การพัฒนาประเทศที่เร็วกว่าที่คิด “ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” หลังจาก ปล่อยประเทศให้มีการเลือกตั้ง ภายใต้วจีทอง “ โชติช่วงชัชวาลย์ “ ของรัฐบาลป๋าเปรม ประเทศไทย เจริญเร็วอย่างมาก มีการพัฒนาสูง ตามมาด้วยการโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชั่น
จนถึงการทำรัฐประหาร ของ กลุ่มทหาร “สุจินดา คราประยูร” หลังจาก วาทกรรม นายกเพื่อชาติ จากการผิดสัจจะต่อประชาชน ก็ให้เกิดการประท้วง และกำเนิดพฤษภาทมิฬ
มีการเลือกตั้ง อีกครั้ง ที่เรียกว่า เลือกตั้ง 35/2 การเลือกตั้งครั้งนี้ มีดาวเด่นเกิดหลายดวง มีกลุ่มดาวที่ขึ้นชื่อ “กลุ่ม 16” มีพรรคที่ดังเปรี้ยงปร้าง อย่างพรรคพลังธรรม จนมีความคิดปฏิรูปการเมือง ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จึงเกิด การตรากฎหมายเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ ให้มี สมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ จนได้รัฐธรรมนูญปี 40 ที่ว่ากันว่า ทันสมัยและดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แต่สำหรับผม ต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะเชื่อว่าประชาชนยังไม่พร้อมจะเข้าใจในความทันสมัยเรื่ององค์กรอิสระต่าง ๆ และ NGO ซึ่งต่อมา NGO บางคน ในบางกลุ่ม ใช้เงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ ไปสร้างชื่อสร้างผลประโยชน์และสร้างความวุ่นวายจนถึงวันนี้
ภาพร่างเงาความโหดร้ายเริ่มปรากฏ จากรัฐบาลที่ได้อานิสงส์ของรัฐธรรมนูญปี 40 เกิดพรรคใหม่ ที่ลงทุนน้อย เพราะตนเองมีทุนมาก มีธุรกิจที่ครอบสื่อไว้ จนเป็นรัฐบาลที่ เหิมเกริม เป็นสภาผู้แทนราษฏรที่แข็งแกร่ง ทายสิว่า รัฐบาลไหน ใครนายกรัฐมนตรี ??
การทุจริตทวีความรุนแรงขึ้นมาก ทั้งข้าราชการที่ก้มหัวรับใช้นักการเมืองก็มาก การต่อสู้นอกสภาฯเริ่มมี ขึ้น ประท้วงเดินขบวน เกิดเหลือง ขึ้น เพราะรัฐบาลเริ่มใช้อำนาจแบบลำเอียงไม่เป็นธรรม ศาลรัฐธรรมนูญเกรงใจเสียงประชาชนที่เลือกรัฐบาลมา จนปล่อยเสือหลุดจากกรง ไม่กล้าถอดถอนนายกรัฐมนตรีคนนั้น ยุคนั้น นี่คือหนึ่งในต้นเหตุ เริ่มต้นของวันนี้
( ติดตาม ตอนต่อไป )
อ่านบทความเก่า