EARTH จีบกองทุนจีนกู้เงินแก้ปัญหาหนี้ ผู้ถือหุ้นไฟเขียว 11 ผู้บริหารทำงาน

HoonSmart.com >> “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” จีบกองทุนจีน กู้เงิน 800 ล้านเหรียญสหรัฐ คืนหนี้และขยายธุรกิจในจีน วางเหมืองถ่านหินค้ำประกัน ด้านผู้ถือหุ้นไฟเขียวให้อดีตผู้บริหาร 11 คนกลับมาทำงานรอบใหม่

บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ(EARTH) ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 โดยผู้ถือหุ้น 92.0387% อนุมัติให้ผู้บริหารเดิมจำนวน 11 คน กลับมาเป็นกรรมการและบริหารงานใหม่ ตามที่นายสิทธิชัย เจิดอำไพ ผู้ถือหุ้นและเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกว่า 1,300 รายเป็นผู้เสนอเป็นวาระพิเศษ

นอกจากนี้ผู้ถือหุ้น 99.9438% ให้การรับรองรายงานประเมินมูลค่ายุติธรรมของสิทธิในเหมืองถ่านหินจากผู้ประเมินอิสระของ 2 เหมืองในอินโดนีเซีย

สาวิน จินดากุล

นายสาวิน จินดากุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ EARTH กล่าวว่า บริษัทพยายามหาเงินทุนใหม่เข้ามา ขณะนี้กำลังเจรจากองทุนจากประเทศจีน โดยมีแผนกู้เงินประมาณ 800 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเหมืองที่อินโดนีเซียสองแห่งเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน มูลค่าเหมือง 732 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาตลาดจะสูงกว่านี้

นายสาวิน กล่าวว่า เงินที่ได้จากกู้เงิน ส่วนหนึ่งจะนำมาใช้คืนเจ้าหนี้ ได้แก่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งขณะนี้บริษัทเป็นหนี้ 1.2 หมื่นล้านบาท และเจ้าหนี้ตั๋วบี/อี อีกประมาณ 5-6 พันล้านบาท และเงินที่ระดมทุนอีกส่วนประมาณ 300 ล้านเหรียญจะนำไปใช้ดำเนินธุรกิจในจีน ซึ่งบริษัทย่อยในจีนขณะนี้มีเงินทุนประมาณ 1 พันล้านบาท การที่มีเงินทุนเข้ามาเพิ่มจะทำให้ธุรกิจขยายขึ้น เพื่อที่จะได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮั่งเส็งของฮ่องกง

และการที่ผู้ถือหุ้นให้การรับรองรายงานการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเหมืองที่อินโดนีเซียแล้ว บริษัทจะได้จัดทำงบการเงินตั้งแต่งวดไตรมาส 3 ของปี 2560 จนถึงงวดปี 2561 ส่งให้กับตลาดหลักทรัพย์ เพื่อที่จะได้ปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย (SP) ในหุ้น EARTH ซึ่งคาดหวังว่าหุ้นจะกลับมาซื้อขายได้ประมาณไตรมาส 3 ปีนี้

ส่วนกรณีที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ผู้บริหาร 11 คนกลับมาบริหารงานใหม่ นายสาวิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่าจะยอมให้กลับมาบริหารได้หรือไม่

นายขจรพงศ์ คำดี ผู้ถือหุ้นและอดีตประธานกรรมการบริหาร กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า เหมืองที่ EARTH เข้าไปซื้อในอินโดนีเซีย มีระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี และสามารถต่ออายุสัมปทานได้ 2 ครั้งๆ ละ 10 ปี และราคาประเมินขณะนี้สูงกว่าราคาที่บริษัทซื้อประมาณ 20% และหากเทียบกับราคาตลาดแล้วราคาจะสูงกว่านี้มาก

ส่วนกรณีที่ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ จะอุทธรณ์ให้ EARTH กลับไปอยู่ในแผนฟื้นฟู มองว่าไม่เห็นด้วยเพราะขณะนี้บริษัทมีทรัพย์สิน 3.2 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้สินอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท จึงมีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน รวมถึงถ้าบริหารอยู่นอกแผนจะคล่องตัวมากกว่า