“ทริส” ปรับแนวโน้มเครดิต NOBLE เป็น “ลบ” ปันผลสูงห่วงหนี้พุ่ง

HoonSmart.com >> “ทริส เรทติ้ง” ปรับมุมมองแนวโน้มเครดิต “โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์” เป็น “ลบ” จาก “คงที่” กังวลอัตราส่วนหนี้สินพุ่งเกิน 2 เท่า หลังจ่ายปันผลจำนวนมาก ห่วงไม่สามารถเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นได้ตามแผน ด้านอันดับเครดิตองคร์กร คงที่ระดับ BBB

บริษัท ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ที่ระดับ “BBB” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ “BBB-” พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Negative” หรือ “ลบ” จากเดิม “Stable” หรือ “คงที่” การปรับเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสืบเนื่องมาจากประกาศของบริษัทเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ระบุว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทมีมติเห็นชอบให้บริษัทจ่ายเงินปันผลที่อัตรา 6.90 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 3,150 ล้านบาท โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 มีนาคม 2562

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนความกังวลของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับระดับหนี้สินของบริษัทที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการจ่ายเงินปันผลจำนวนมากในครั้งนี้ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่มีแผนในการลดระดับหนี้สินต่อทุนลงอย่างเป็นรูปธรรม อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจนสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ทริสเรทติ้งประมาณการไว้ที่ระดับ 2 เท่าเป็นอย่างมาก

จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้บริหารของบริษัท บริษัทได้ขายที่ดินบางแปลงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 แล้ว ทั้งนี้ หลังจากการขายที่ดินและจ่ายเงินปันผลแล้ว อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนของบริษัทจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.2-2.3 เท่าซึ่งต่ำกว่าข้อกำหนดทางการเงินที่บริษัทต้องรักษาอัตราส่วนทางการเงินดังกล่าวให้ต่ำกว่า 2.5 เท่า

บริษัทยังมีแผนจะปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินให้ดีขึ้นโดยการขายทรัพย์สินซึ่งมิได้ใช้ในการดำเนินงานหลักของบริษัทและเร่งการขายคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วใน 3 โครงการ ได้แก่ “Noble Ploenchit” “Noble Revolve Ratchada” และ “Noble Revolve Ratchada 2” โดยทั้งสามโครงการดังกล่าวมีห้องที่สร้างเสร็จพร้อมขายคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่จะสร้างแล้วเสร็จและพร้อมโอนให้แก่ลูกค้าภายในปี 2562 อีก 2 โครงการคือ “Noble Recole” และ “Noble BE33”

ทั้งนี้ หากบริษัทดำเนินการได้ตามแผนดังกล่าว อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนของบริษัทก็จะทยอยลดลงจนต่ำกว่า 2 เท่าภายในสิ้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของธุรกิจยังคงมีอยู่ โดยทริสเรทติ้งคาดว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเผชิญกับแรงกดดันต่อไป ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทยังมีความเสี่ยงที่แผนการลดระดับหนี้สินจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังและอาจทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมายของทริสเรทติ้ง

ตามประมาณการกรณีฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ในระดับ 8,000-10,000 ล้านบาทต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 20% และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนจะลดลงเหลือต่ำกว่า 2 เท่าภายในสิ้นปี 2562

สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับกลับไปเป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Negative” หรือ “ลบ” ได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนลดลงมาต่ำกว่า 2 เท่าภายในสิ้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากระดับหนี้สินต่อทุนของบริษัทไม่ลดลงต่ำกว่าเป้าหมายภายใน 12 เดือน หรือหากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดหมายไว้เป็นอย่างมาก

อ่านประกอบ

NOBLE เซอร์ไพรส์! แจกปันผลอู้ฟู่ 34% “กิตติ” รับเละ 1,378 ล้าน

3 เหตุผลที่ “กิตติ” NOBLE จัดหนัก อะเมซิ่ง! เงินปันผล 6.90 บาท

NOBLE กำไร 987 ล้านบาท วูบ 55%