NOBLE เซอร์ไพรส์! แจกปันผลอู้ฟู่ 34% “กิตติ” รับเละ 1,378 ล้าน

HoonSmart.com >> โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ อินไซด์ฯ หุ้นวิ่งแรง 8% วันที่บอร์ดมีมติแจกเงินปันผลสูงพิเศษ 6.90 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมากถึง 34.50% ขนกำไรสะสมกว่าครึ่งมาจ่าย บริษัทเพิ่งเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ “กิตติ ธนากิจอำนวย”รวย! รับคนเดียว 1,378 ล้านบาท ตามด้วย nCrowne 784 ล้านบาท

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า วันที่ 22 ก.พ.2562 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 6.90 บาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 8 มี.ค. และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 22 มี.ค. 2562 ทั้งนี้เป็นเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกในปี 2561(ม.ค.-ก.ย.2561)และกำไรสะสม โดยมีกำไรสุทธิเพียง 268 ล้านบาท คิดเป็น 0.49 บาทต่อหุ้น

การจ่ายเงินปันผลมากเป็นพิเศษ ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมากถึง 34.50% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นที่ 20 บาท ณ วันที่คณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายเงินปันผล (22 ก.พ.) ราคาหุ้นดีดขึ้นแรง 8.11% บวก 1.50 บาท

ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2561 บริษัทมีกำไรสะสม ยังไม่ได้จัดสรรจำนวน 5,090 ล้านบาท และจัดสรร-ทุนสำรองตามกฎหมาย 145 ล้านบาท

บริษัทมีทุนชำระแล้ว 456,471,175 หุ้น การจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 6.90 บาท ใช้เงินมากถึง 3,149.64 ล้านบาท หรือมากกว่า 61% ของกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร และเป็นกรณีพิเศษ ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำปี 2560 บริษัทจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.17 บาท และไม่ได้จ่ายสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2559 เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 56.74% ไม่อนุมัติ และเห็นด้วยเพียง 43.26%

กิตติ ธนากิจอำนวย

การจ่ายเงินปันผลครั้งนี้ นายกิตติ ธนากิจอำนวย ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดได้รับเงินทั้งสิ้น 1,378 ล้านบาท และ nCrowne ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสองได้รับเงินจำนวน 784.25 ล้านบาท

สำหรับ นายกิตติ และ nCrowne เพิ่งเข้ามาถือหุ้นใหญ่ NOBLE เมื่อเดือนมิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา โดยนายกิตติ ถือหุ้นอยู่จำนวน 36.33 ล้านหุ้น หรือ 7.96% ได้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 120.08 ล้านหุ้นหรือ 26.31% ทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด 156.41 ล้านหุ้น คิดเป็น 34.27% และ nCrowne ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมด้วยจำนวน 104.20 ล้านหุ้น จำนวน 22.83% หลังจากนั้นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 รายได้จัดทำคำเสนอซื้อหุ้นได้จำนวน 52.77 ล้านหุ้น จำนวน 11.56% แบ่งจัดสรรหุ้นที่ได้มาดังกล่าว ทำให้นายกิตติ ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 199.73 ล้านหุ้น จำนวน 43.76% และ nCrowne ถือเพิ่มขึ้นเป็น 113.66 ล้านหุ้น หรือ 24.90%